เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 4. อุปาทินนติกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย (2)

อัญญมัญญปัจจัย
[59] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3
โดยอัญญมัญญปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ 1 ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ 3 และหทัยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุ ฯลฯ หทัยวัตถุ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ฯลฯ มหาภูตรูป 1 เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป 3 ฯลฯ
มหาภูตรูป 2 เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป 2 ฯลฯ สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม
... มหาภูตรูป 1 ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 ฯลฯ
ขันธ์ 2 เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 โดยอัญญมัญญปัจจัย มหาภูตรูป 1 ฯลฯ ที่
เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... มหาภูตรูป 1 ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน
ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :826 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 4. อุปาทินนติกะ 7. ปัญหาวาร
ถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ 3 ฯลฯ ขันธ์ 2 เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 ฯลฯ (1)

นิสสยปัจจัย
[60] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 โดย
นิสสยปัจจัย ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ มหาภูตรูป 1 ฯลฯ สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป 1 ฯลฯ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ
ฯลฯ กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสย-
ปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยนิสสยปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดย
นิสสยปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :827 }