เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 3. วิปากติกะ 7. ปัญหาวาร
ปุเรชาตปัจจัย
[105] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยปุเรชาตปัจจัย มี 2 อย่าง
คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ พระอรหันต์เห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
ฯลฯ กาย ... รูป ฯลฯ โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ
เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฯลฯ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ ฯลฯ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากโดยปุเรชาตปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นวิบากโดยปุเรชาตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุ-
ปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลิน
จักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว
จิตตุปบาทที่เป็นวิบาก จึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ หทัยวัตถุ
โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ จิตตุปบาทที่เป็นวิบาก จึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์
รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยปุเรชาตปัจจัย ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็น
ปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายา-
ยตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากโดย
ปุเรชาตปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยปุเรชาตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะ
และวัตถุปุเรชาตะ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :760 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 3. วิปากติกะ 7. ปัญหาวาร
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ เพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ และหทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
ฯลฯ เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฯลฯ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ ฯลฯ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดย
ปุเรชาตปัจจัย (3)

ปัจฉาชาตปัจจัย
[106] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยปัจฉาชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งเกิดภายหลัง
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยปัจฉาชาตปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและ
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยปัจฉาชาตปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยปัจฉาชาตปัจจัย (1)

อาเสวนปัจจัย
[107] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากซึ่งเกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากซึ่งเกิดหลัง ๆ ฯลฯ อนุโลมเป็นปัจจัยแก่
โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัย
แก่มรรคโดยอาเสวนปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบาก
และไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัย ฯลฯ โดยอาเสวนปัจจัย
ฯลฯ (1)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :761 }