เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 3. วิปากติกะ 7. ปัญหาวาร
พิจารณามรรค พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว พิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว รู้กิเลส
ที่เคยเกิดขึ้น เห็นแจ้งขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นวิบากด้วยเจโตปริยญาณ
อากาสานัญจายตนกุศลเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนกิริยาโดยอารัมมณปัจจัย
อากิญจัญญายตนกุศลเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนกิริยาโดยอารัมมณปัจจัย
ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (3)
[94] สภาวธรรมที่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอรหันต์
พิจารณานิพพาน นิพพานเป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย พระอรหันต์
เห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นแจ้งโสตะ ... ฆานะ
... ชิวหา ... กาย ... รูป ... เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ
... ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้มี
ความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากด้วยเจโตปริยญาณ
อากาสานัญจายตนกิริยาเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนกิริยาโดยอารัมมณปัจจัย
อากิญจัญญายตนกิริยาเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนกิริยา โดยอารัมมณปัจจัย
ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม ที่
เป็นวิบากโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ นิพพานเป็นปัจจัยแก่ผลโดยอารัมมณปัจจัย
พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ
โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบาก จึงเกิดขึ้น
โดยเป็นตทารมณ์ เห็นแจ้งโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย ... รูป ... เสียง
... กลิ่น... รส... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ ... ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :749 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 3. วิปากติกะ 7. ปัญหาวาร
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบาก จึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์
รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ
โดยอารัมมณปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระเสขะพิจารณานิพพาน
นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทานและมรรคโดยอารัมมณปัจจัย พระเสขะหรือ
ปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน
เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน ฯลฯ เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ
ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่ไม่เป็นวิบาก
และไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
และอนาคตังสญาณโดยอารัมมณปัจจัย (3)

อธิปติปัจจัย
[95] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอธิปติ-
ปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัย
แก่สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอธิปติ-
ปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระเสขะพิจารณาผลให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่เป็นวิบากให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น
ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากโดยอธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :750 }