เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 2. เวทนาติกะ 7. ปัญหาวาร
ฯลฯ ความปรารถนาเป็นปัจจัยแก่โทสะ ... โมหะ ... กายวิญญาณที่สหรคต
ด้วยทุกข์ ... ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (3)

อาเสวนปัจจัย
[56] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาซึ่งเกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย อนุโลม
ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภู
เป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดยอาเสวนปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาซึ่งเกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
ซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดย
อาเสวนปัจจัย อนุโลมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลม
เป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดย
อาเสวนปัจจัย (1)

กัมมปัจจัย
[57] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
วิบากซึ่งสัมปยุตด้วยสุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย (1)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :676 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 2. เวทนาติกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มีอย่างเดียว คือ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่
สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยทุกขเวทนาโดย
กัมมปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มีอย่างเดียว คือ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่
สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
โดยกัมมปัจจัย (3)
[58] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยกัมมปัจจัย
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
วิบากซึ่งสัมปยุตด้วยทุกขเวทนาโดยกัมมปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มีอย่างเดียว คือ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่
สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
โดยกัมมปัจจัย (2)
[59] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและ
นานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์โดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์
ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย (1)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :677 }