เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 2. เวทนาติกะ 7. ปัญหาวาร
กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุข จึงฆ่าสัตว์ มีจิตสัมปยุตด้วยทุกขเวทนา ลักทรัพย์
พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ งัดแงะ ปล้นไม่ให้เหลือ ปล้น
เรือนหลังเดียว ดักจี้ที่ทางเปลี่ยว ผิดภรรยาผู้อื่น ฆ่าชาวบ้าน ฆ่าชาวนิคม ฆ่า
มารดา ฆ่าบิดา ฆ่าพระอรหันต์ มีจิตประทุษร้ายทำพระโลหิตของพระตถาคต
ให้ห้อ ทำลายสงฆ์ ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ ...
ปัญญา ... ราคะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนา ...
กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุขเป็นปัจจัยแก่โทสะ ... โมหะ ... กายวิญญาณที่
สหรคตด้วยทุกข์และขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ
อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลมีจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาอาศัย
ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาแล้วจึงให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทำฌาน
ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำมรรคให้เกิดขึ้น
ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิอาศัยศีลที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนา ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... ราคะ ... โมหะ ... มานะ ...
ทิฏฐิ ... ความปรารถนา ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุข จึงให้ทานด้วยจิตที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น ลักทรัพย์ มีจิตที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ งัดแงะ
ปล้นไม่ให้เหลือ ปล้นเรือนหลังเดียว ดักจี้ที่ทางเปลี่ยว ผิดภรรยาผู้อื่น ฆ่าชาวบ้าน
ฆ่าชาวนิคม ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา
... ราคะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนา ... กายวิญญาณ
ที่สหรคตด้วยสุข และขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (3)
[54] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ

 

 

 

 


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :673 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 2. เวทนาติกะ 7. ปัญหาวาร
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยโทสะ จึงฆ่าสัตว์ มีจิตที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนา ลักทรัพย์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ อาศัยโมหะ ... กายวิญญาณที่
สหรคตด้วยทุกข์ จึงฆ่าสัตว์ มีจิตที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา ลักทรัพย์ ฯลฯ
ทำลายสงฆ์ โทสะ ... โมหะ ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์เป็นปัจจัยแก่โทสะ
... โมหะ ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์ ... ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
โดยอุปนิสสยปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยโทสะ
มีจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา จึงให้ทาน ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีจิตสัมปยุต
ด้วยสุขเวทนา ลักทรัพย์ ฯลฯ ฆ่าชาวบ้าน อาศัยโมหะ ... กายวิญญาณที่
สหรคตด้วยทุกข์ มีจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา จึงให้ทาน ฯลฯ ฆ่าชาวนิคม
โทสะ ... โมหะ ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์เป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนา ฯลฯ กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุข ... ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา
โดยอุปนิสสยปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยโทสะ มีจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
จึงให้ทาน ฯลฯ ฆ่าชาวนิคม อาศัยโมหะ ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์
มีจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา จึงให้ทาน ฯลฯ ฆ่าชาวนิคม โทสะ ... โมหะ ...
กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์เป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
ฯลฯ ความปรารถนา ... ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (3)
[55] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ
อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :674 }