เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 1. กุสลติกะ 3. ปัจจยวาร
นปัจฉาชาตปัจจัยเป็นต้น
[281] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นปัจฉาชาตปัจจัย เพราะนอาเสวนปัจจัย ฯลฯ ทำจักขายตนะ ฯลฯ
(นปัจฉาชาตปัจจัยและนอาเสวนปัจจัยบริบูรณ์แล้ว มี 17 วาระ)
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนสหชาตปัจจัยในอนุโลม)

นกัมมปัจจัย
[282] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลทำขันธ์ที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัยได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลทำขันธ์ที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอัพยากตกิริยาทำขันธ์ที่เป็นอัพยากตกิริยาให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ทำมหาภูตรูป 1
ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ อุปาทายรูป ... เจตนาที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลทำขันธ์ที่เป็นกุศลและทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (3)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลทำขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :153 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 1. กุสลติกะ 3. ปัจจยวาร
นวิปากปัจจัย
[283] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นวิปากปัจจัย ... ทำขันธ์ 1 ที่เป็นกุศล ... มี 3 วาระ
... ทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ... มี 3 วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ 1 ที่เป็นอัพยากต-
กิริยาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ 2 และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ 2 ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น มหาภูตรูป 3 ทำมหาภูตรูป 1 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตต-
สมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก
... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม
มหาภูตรูป 3 ทำมหาภูตรูป 1 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็น
อุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (เว้นวิปากปัจจัย
ทุกปัจจัยพึงขยายให้พิสดาร)

นอาหารปัจจัยเป็นต้น
[284] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอาหารปัจจัย เพราะนอินทรียปัจจัย เพราะนฌานปัจจัย ฯลฯ
จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (นี้เป็นความต่างกันในนฌานปัจจัย)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็นอัพยากต-
วิบากและอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (นี้เป็นความต่างกันใน
นมัคคปัจจัย)
(ที่เหลือพึงขยายให้พิสดารเหมือนปัจจนียะในปฏิจจวาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 40 หน้า :154 }