เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [9. ธัมมยมก ] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยเกิด
บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[78] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยเกิด
บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาว-
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุโลมบุคคล
[79] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง
จิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :81 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [9. ธัมมยมก ] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรม
ที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลก็จักเกิด
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ
บุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ใน
อุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น
จักเกิดและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด
ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล
เหล่านั้นจักเกิดและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด
[80] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :82 }