เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 6. อตีตานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[427] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ
และอรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์
ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิ
ในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและ
อรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่
เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :594 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 6. อตีตานาคตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและ
อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่
เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้มีจิตเป็น
อุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก
เกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก
เกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :595 }