เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จัก
ไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
สัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[403] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากญาณ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิ
ใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
ปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :560 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 6. อตีตานาคตวาร
6. อตีตานาคตวาร
อนุโลมบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[404] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด โสตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล และบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่โสตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและโสตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและในอรูปา-
วจรภูมิแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
แล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้น
นั่นแหละแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :561 }