เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด
แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[390] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
ในภังคขณะแห่งจิตนั้น โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส ปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วย
อุเบกขา ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิต
นั้น อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :533 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
สัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วย
อุเบกขา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
มนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :534 }