เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[381] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส ปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
มีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่
ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัสในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็น
โสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัสในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์
ก็กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :514 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อุเปกขินทรียมูลกนัย
[382] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็น
อุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
อุเบกขาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์
ก็กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็น
อุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลัง
เกิด บุคคลมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา
ในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :515 }