เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 4. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[364] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่
ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและ
อสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์
ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :481 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปัญญินทรียมูลกนัย
[365] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากญาณ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิ
ใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุโลมบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[366] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นผู้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่โสตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและโสตินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :482 }