เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 4. ปัจจุปปันนาตีตวาร
โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[350] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์
ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัสในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและโสมนัส-
สินทรีย์ก็กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[351] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :464 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 4. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
อุเบกขาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอุเปกขิน-
ทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์
ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุต
ด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :465 }