เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 1. ปัจจุปปันนวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสและที่วิปปยุตจากสัทธาใน
ปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัสและสัทธาในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลัง
เกิดและสัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นสเหตุกะแต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาและที่วิปปยุตจากโสมนัสในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิต
เป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาและโสมนัสใน
ปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็
กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตแต่มีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสและที่วิปปยุตจากญาณในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็น
ญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสและญาณ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสและญาณในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :290 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 1. ปัจจุปปันนวาร
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตแต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลัง ในอุป-
ปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยญาณและที่วิปปยุตจากโสมนัสในปวัตติกาล
ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด
บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตและมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่
สัมปยุตด้วยญาณและโสมนัสในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดได้แต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่วิปปยุตจากโสมนัสในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด
แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[210] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นอเหตุกะและมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาและที่วิปปยุตจากสัทธาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :291 }