เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [7. อนุสยยมก] 2. มหาวาร 5. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัยและทิฏฐานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย
มานานุสัย และทิฏฐานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควร
กล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา 2
ในกามธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้
แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ฯลฯ
[328] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล 3 จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละภวราคา-
นุสัยและมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละภวราคานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควร
กล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ
วิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :833 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [7. อนุสยยมก] 2. มหาวาร 5. ปหีนวาร
วิ. อนาคามีบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยและ
มานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว กาม-
ราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล
นั้นนั่นแหละ ในเวทนา 2 ในกามธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยและมานานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ได้ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล 2 จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัยและมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐา-
นุสัยและวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา 2 ในกามธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัย กามราคานุสัยและมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่
ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละ
อวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย
ไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่
ได้แล้ว” บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย มานา-
นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในเวทนา 2 ในกามธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละ
ได้แล้ว” หรือ “ละ ไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละ
อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กาม-
ราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปัญจกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :834 }