เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [6. สังขารยมก] 2. ปวัตติวาร 3. อุปปาทนิโรธวาร 3. อนาคตวาร
จิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต
ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น)
บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและวจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นใน
ฌานนั้นไม่ใช่จักดับ แต่กายสังขารมิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้ง
วิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิต
ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้า
จตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักดับและกายสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ปัจฉิม-
จิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น)
บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลในภูมิใดไม่ใช่จักดับ ฯลฯ
วิ. ใช่
[146] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จิตตสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :519 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [6. สังขารยมก] 2. ปวัตติวาร 3. อุปปาทนิโรธวาร 4. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้เข้าทุติยฌาน
ตติยฌาน และจตุตถฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในฌานนั้นไม่ใช่จักเกิด แต่
จิตตสังขารมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ ฯลฯ
วิ. ใช่

4. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นปัจจุบันและที่เป็นอดีต
อนุโลมบุคคล
[147] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดกำลังเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็เคย
ดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดเคยดับ กายสังขารของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ
แห่งลมอัสสาสปัสสาสะ วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและกายสังขารก็
กำลังเกิด
(แม้ในอุปปาทนิโรธวาร ก็พึงขยายคำถามปัจจุปปันนาตีตวารทั้งฝ่ายอนุโลมและ
ปัจจนีกะให้พิสดารเหมือนในอุปปาทวาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :520 }