เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [6. สังขารยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและวจีสังขาร
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. กายสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจิตต-
สังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
[65] อนุ. วจีสังขารของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตตสังขารของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตซึ่งเว้นจาก
ลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตตสังขารมิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจาร วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. จิตตสังขารของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด วจีสังขารของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :477 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [6. สังขารยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีทั้งวิตกและวิจาร จิตตสังขารของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่วจีสังขารมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต
ที่มีทั้งวิตกและวิจาร บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
จิตตสังขารของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปัจจนีกโอกาส
[66] อนุ. กายสังขารในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[67] อนุ. กายสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด วจีสังขารของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าปฐมฌานและบุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละซึ่งเว้น
จากลมอัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ กายสังขาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่วจีสังขารมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
(ในลำดับแห่งจิตนั้น) ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌาน
และตติยฌาน ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละซึ่งเว้นจากลม
อัสสาสปัสสาสะ บุคคลผู้เข้าจตุตถฌานและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและวจีสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. วจีสังขารของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด กายสังขารของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและ
ตติยฌาน วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่กายสังขารมิใช่ไม่
กำลังเกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารจัก
เกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสปัสสาสะ
ของบุคคลผู้เข้าทุติยฌานและตติยฌาน ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :478 }