เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 3. อุปปาทนิโรธวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดจักดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ
แห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ในภังคขณะแห่งตัณหาของบุคคลเหล่าอื่นผู้
จักได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สมุทยสัจ
ไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้จักได้มรรค มัคคสัจของ
บุคคลเหล่านั้นจักดับและสมุทยสัจก็กำลังเกิด
อนุโลมโอกาส
[156] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดกำลังเกิด ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[157] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรคและในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันต-
บุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น
บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด
แต่สมุทยสัจไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด
และสมุทยสัจก็จักดับ
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลัง
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาลและในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่ทุกขสัจไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติใน
จตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สมุทยสัจของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและทุกขสัจก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :435 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 3. อุปปาทนิโรธวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นในภูมินั้น
ก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิ
และบุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตใน
ปวัตติกาล บุคคลผู้กำลังอุบัติในอบายภูมิและอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มัคคสัจไม่ใช่จักดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค
บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคล
เหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจ
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมัคคสัจก็จักดับ
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิต
ใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาลและในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ มัคคสัจของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่ทุกขสัจไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่ง
อรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น
บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล
มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและทุกขสัจก็กำลังเกิด
[158] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิและบุคคลผู้เป็น
ปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มัคคสัจ
ไม่ใช่จักดับ ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้จักได้มรรค สมุทยสัจของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมัคคสัจก็จักดับ
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็
กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :436 }