เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 3. อุปปาทนิโรธวาร 1. ปัจจุปปันนวาร
จากตัณหาในปวัตติกาล และในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจ
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสมุทยสัจก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สมุทย-
สัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้
กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากตัณหาในปวัตติกาลและในอุปปาทขณะ
แห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและ
ทุกขสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
ดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งมรรค ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
มัคคสัจมิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจาก
มรรคในปวัตติกาลและในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมัคคสัจก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล
มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมด
ผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากมรรคในปวัตติกาล และในอุปปาท-
ขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและ
ทุกขสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด
[141] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งมรรค สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
มัคคสัจมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากตัณหา ในภังคขณะ
แห่งจิตที่วิปปยุตจากมรรค บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญ-
สัตตภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมัคคสัจก็ไม่ใช่กำลังดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :428 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 3. อุปปาทนิโรธวาร 2. อตีตวาร
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ
แต่สมุทยสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากมรรคและในอุปปาท-
ขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากตัณหา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสมุทยสัจก็ไม่ใช่
กำลังเกิด
ปัจจนีกโอกาส
[142] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[143] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฯลฯ
(คำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใด และ ของบุคคลใดในภูมิใด เหมือนกัน ใน
คำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใดในภูมิใด ไม่พึงเพิ่มคำว่า บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติ)

2. อตีตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นอดีต
อนุโลมบุคคล
[144] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดไม่เคยเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็เคย
ดับใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดเคยดับ ฯลฯ
วิ. ใช่
(พึงจำแนกอนุโลมและปัจจนีกะแม้ในอุปปาทนิโรธวารให้เหมือนกับอตีตปุจฉา
ในอุปปาทวาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :429 }