เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 2. นิโรธวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับ
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค มัคคสัจ
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่สมุทยสัจมิใช่ไม่กำลังดับ ในภังคขณะแห่ง
อรหัตตมรรค อรหันตบุคคล ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่ง
จักไม่ได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและ
สมุทยสัจก็ไม่ใช่กำลังดับ
ปัจจนีกโอกาส
[123] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[124] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สมุทยสัจของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาลและในภังคขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สมุทยสัจมิใช่จักไม่ดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตต-
มรรคและในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคใน
ลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น และในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและ
อรหัตตผลในอรูปภูมิ บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสมุทยสัจก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค และในภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล
บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้อุบัติอยู่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :419 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 2. นิโรธวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ในอสัญญสัตตภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่ทุกขสัจ
มิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค และในอุปปาทขณะแห่งจิตของ
อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิต
นั้น และในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและอรหัตตผลในอรูปภูมิ บุคคลผู้กำลังอุบัติ
ในอสัญญสัตตภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและทุกขสัจก็
ไม่ใช่กำลังดับ
อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ มัคคสัจของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรคในปัญจโวการภูมิ บุคคลจักได้อรหัตต-
มรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่ง
กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล และในภังคขณะแห่งมรรคและผล
ในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่มัคคสัจมิใช่จักไม่
ดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิและ
บุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล
และในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและอรหัตตผลในอรูปภูมิ บุคคลผู้กำลังอุบัติใน
อบายภูมิและอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและ
มัคคสัจก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค และในภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิและบุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ใน
ภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล บุคคลผู้กำลังจุติจากอบายภูมิและอสัญญสัตตภูมิ
มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่กำลังดับ ใน
อุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิและบุคคลผู้เป็น
ปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาลและใน
ภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและอรหัตตผลในอรูปภูมิ บุคคลผู้กำลังอุบัติในอบายภูมิ
และอสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและทุกขสัจก็ไม่
ใช่กำลังดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :420 }