เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 2. นิโรธวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ
แห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลเหล่า
อื่นผู้จักได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นจักดับ แต่สมุทยสัจไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้จัก
ได้มรรค มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสมุทยสัจก็กำลังดับ
ปัจจนีกบุคคล
[121] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล และใน
ภังคขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่
สมุทยสัจมิใช่จักไม่ดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค และในอุปปาทขณะแห่ง
จิตของอรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตนั้น และในภังคขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้น
ไม่ใช่กำลังดับและสมุทยสัจก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับ
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและในภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล
บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น สมุทยสัจ
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่ง
อรหัตตมรรคและในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรค
ในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและ
อรหัตตผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและทุกขสัจก็ไม่ใช่
กำลังดับ
อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ มัคคสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับ
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :417 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 2. นิโรธวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ
แห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ใน
อุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจ
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่มัคคสัจมิใช่จักไม่ดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิต
ของอรหันตบุคคล บุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล และในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและอรหัตตผลในอรูปภูมิ
ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและมัคคสัจก็ไม่ใช่จักดับ
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับ
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค และในภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล
บุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล
มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ใน
อุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล และในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและอรหัตตผลใน
อรูปภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและทุกขสัจก็ไม่ใช่กำลังดับ
[122] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ มัคคสัจของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง
จิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลเหล่าอื่น
ผู้จักได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่
มัคคสัจมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล ในอุปปาทขณะ
แห่งตัณหาของบุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็น
ไปอยู่ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สมุทยสัจ
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและมัคคสัจก็ไม่ใช่จักดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :418 }