เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 2. นิโรธวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
เหล่านั้นกำลังดับ แต่สมุทยสัจไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและสมุทยสัจก็จักดับ
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดจักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล และใน
ภังคขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่ทุกขสัจ
ไม่ใช่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สมุทยสัจ
ของบุคคลเหล่านั้นจักดับและทุกขสัจก็กำลังดับ
อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดกำลังดับ มัคคสัจของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค และในภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล
บุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล
ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับ แต่มัคคสัจไม่ใช่จักดับ บุคคลจักได้อรหัตตมรรค
ในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลัง จุติ
ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและมัคคสัจก็
จักดับ
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดจักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้มรรคในลำดับแห่งจิตใด
ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล และในภังคขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ มัคคสัจของ
บุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่ทุกขสัจไม่ใช่กำลังดับ บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง
จิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นจักดับและทุกขสัจก็กำลังดับ
[117] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดกำลังดับ มัคคสัจของบุคคลนั้นก็จักดับ
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค สมุทยสัจ
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับ แต่มัคคสัจไม่ใช่จักดับ ในภังคขณะแห่งตัณหาของ
บุคคลผู้จักได้มรรค สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและมัคคสัจก็จักดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :414 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 2. นิโรธวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดจักดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง
จิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลเหล่าอื่นผู้
จักได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สมุทยสัจ
ไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้จักได้มรรค มัคคสัจของบุคคล
เหล่านั้นจักดับและสมุทยสัจก็กำลังดับ
อนุโลมโอกาส
[118] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดกำลังดับ ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[119] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค และในภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล
บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้กำลัง
จุติจากอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับ แต่สมุทยสัจ
ไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับและสมุทยสัจก็
จักดับ
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็
กำลังดับใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล และในภังคขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่ทุกขสัจไม่ใช่กำลังดับ บุคคลผู้กำลังจุติจาก
จตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สมุทยสัจของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและทุกขสัจก็กำลังดับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :415 }