เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นปัจจุบันและที่เป็นอนาคต
อนุโลมบุคคล
[68] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดกำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค ในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล
บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ทุกขสัจ
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่สมุทยสัจไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ซึ่งกำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและ
สมุทยสัจก็จักเกิด
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดจักเกิด ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล และใน
อุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่
ทุกขสัจไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตใน
ปวัตติกาล สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและทุกขสัจก็กำลังเกิด
อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค ในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันต-
บุคคล บุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ และในอุปปาทขณะแห่งจิตใน
ปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่มัคคสัจไม่ใช่จักเกิด บุคคลจัก
ไม่ได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้
จักได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิดและมัคคสัจก็จักเกิด
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดจักเกิด ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น
บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล และใน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :387 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่
ทุกขสัจไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตนั้น และบุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตใน
ปวัตติกาล มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและทุกขสัจก็กำลังเกิด
[69] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา สมุทย-
สัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่มัคคสัจไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้จักได้มรรค ใน
อุปปาทขณะแห่งตัณหา สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและมัคคสัจก็จักเกิด
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดจักเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น
ในภังคขณะแห่งตัณหาของเหล่าบุคคลผู้จักได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหา
เป็นไปอยู่ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่สมุทยสัจไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่ง
ตัณหาของบุคคลผู้จักได้มรรค มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและสมุทยสัจก็
กำลังเกิด
อนุโลมโอกาส
[70] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดกำลังเกิด ฯลฯ
(คำที่ท่านกำหนดว่า ในภูมิใด พึงทำให้เหมือนกับคำที่ท่านกำหนดว่าของ
บุคคลใดในภูมิใด)
อนุโลมปุคคโลกาส
[71] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :388 }