เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 4. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดเคยเกิด ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล และใน
อุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่
ทุกขสัจไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตใน
ปวัตติกาล สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและทุกขสัจก็กำลังเกิด
อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้ยังไม่ได้บรรลุซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล
ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่มัคคสัจไม่เคยเกิด บุคคลผู้ได้บรรลุซึ่งกำลัง
อุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและ
มัคคสัจก็เคยเกิด
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดเคยเกิด ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้ได้บรรลุซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล และใน
อุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่
ทุกขสัจไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้ได้บรรลุซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตใน
ปวัตติกาล มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและทุกขสัจก็กำลังเกิด
[59] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้ยังไม่ได้บรรลุ สมุทยสัจของ
บุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่มัคคสัจไม่เคยเกิด ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของ
บุคคลผู้ได้บรรลุ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและมัคคสัจก็เคยเกิด
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดเคยเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้ได้บรรลุ เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหา
เป็นไปอยู่ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่
สมุทยสัจไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้ได้บรรลุ มัคคสัจ
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและสมุทยสัจก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :381 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 4. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุโลมโอกาส
[60] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดกำลังเกิด ฯลฯ
(คำที่ท่านกำหนดว่า ในภูมิใด เหมือนกันทั้งหมด)
อนุโลมปุคคโลกาส
[61] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอุปปัตติจิต ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด
แต่สมุทยสัจไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด
และสมุทยสัจก็เคยเกิด
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ทุกขสัจของบุคคลนั้นในภูมินั้น
ก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาล และในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ทุกขสัจไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติใน
จตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สมุทยสัจของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและทุกขสัจก็กำลังเกิด
อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นในภูมินั้น
ก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอุปปัตติจิต1 ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้ยังไม่ได้บรรลุซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล บุคคลผู้
กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่
มัคคสัจไม่เคยเกิด บุคคลผู้ได้บรรลุซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล
ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมัคคสัจก็เคยเกิด

เชิงอรรถ :
1 หมายถึงปฏิสนธิจิตหรือจิตที่กำลังเกิดในภพใหม่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :382 }