เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 1. ปัจจุปปันนวาร
ปฏิ. มัคคสัจในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สมุทยสัจในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอบายภูมิ ในภูมินั้นมัคคสัจไม่ใช่กำลังเกิด แต่สมุทยสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด
ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นมัคคสัจไม่ใช่กำลังเกิดและสมุทยสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[36] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ทุกขสัจของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากตัณหา
ในปวัตติกาล สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ทุกขสัจมิใช่
ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ในอุปปาท-
ขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และทุกขสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งมรรคในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่กำลังเกิด แต่มัคคสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะแห่งผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมัคคสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ทุกขสัจของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากมรรค
ในปวัตติกาล มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :370 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [5. สัจจยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 2. อตีตวาร
กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะ
แห่งผลในอรูปภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและทุกขสัจก็
ไม่ใช่กำลังเกิด
[37] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มัคคสัจของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งมรรค สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิด แต่มัคคสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ใน
อุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากตัณหาและที่วิปปยุตจากมรรค บุคคลผู้เข้านิโรธ-
สมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมัคคสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิด แต่สมุทยสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ใน
อุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากมรรคและที่วิปปยุตจากตัณหา บุคคลผู้เข้านิโรธ-
สมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่กำลังเกิดและสมุทยสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด

2. อตีตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นอดีต
อนุโลมบุคคล
[38] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดเคยเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดเคยเกิด ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :371 }