เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [3. อายตนยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 1. ปัจจุปปันนวาร
2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร
1. ปัจจุปปันนวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นปัจจุบัน
อนุโลมบุคคล
จักขายตนมูลกนัย
[18] อนุ. จักขายตนะของบุคคลใดกำลังเกิด โสตายตนะของบุคคลนั้นก็
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้โสตะเกิดไม่ได้1 กำลังอุบัติ จักขายตนะของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่โสตายตนะไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุและโสตะเกิดได้2
กำลังอุบัติ จักขายตนะของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและโสตายตนะก็กำลังเกิด
ปฏิ. โสตายตนะของบุคคลใดกำลังเกิด จักขายตนะของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีโสตะเกิดได้จักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ โสตายตนะของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่จักขายตนะไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีโสตะและจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
โสตายตนะของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและจักขายตนะก็กำลังเกิด
อนุ. จักขายตนะของบุคคลใดกำลังเกิด ฆานายตนะของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้ฆานะเกิดไม่ได้1กำลังอุบัติ จักขายตนะของบุคคลเหล่า
นั้นกำลังเกิด แต่ฆานายตนะไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุและฆานะเกิดได้2กำลังอุบัติ

เชิงอรรถ :
1 คำบาลีว่า สจกฺขุกานํ อโสตกานํ ท่านหมายถึงสัตว์ผู้เป็นโอปปาติกะ ในอบายภูมิที่มีหูหนวกแต่กำเนิด
เพราะเกิดมามีแต่จักขุไม่มีโสตะ เช่น พวกเปรต อสุรกาย เป็นต้น (อภิ.ปญฺจ.อ. 18-21/353)
2 คำบาลีว่า สจกฺขุกานํ สโสตกานํ ท่านหมายถึงสัตว์ผู้มีอายตนะบริบูรณ์ในสุคติภูมิ ทุคติภูมิ และพวก
รูปพรหมผู้เป็นโอปปาติกะ เพราะเกิดมามีจักขุและโสตะบริบูรณ์ (อภิ.ปญฺจ.อ. 18-21/353)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 38 หน้า :134 }