พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [19. เอกูนวีสติมวรรค] 7. อัจจันตนิยามกถา (192)
สก. ละได้ด้วยมรรคไหน
ปร. ละได้ด้วยมรรคฝ่ายอกุศล
สก. มรรคฝ่ายอกุศลเป็นสภาวธรรมนำสัตว์ออกจากวัฏฏทุกข์ ฯลฯ1 ท่าน
ก็ไม่ควรยอมรับว่า บุคคลผู้แน่นอนโดยสัสสตทิฏฐิละอุจเฉททิฏฐิได้ด้วยมรรคฝ่าย
อกุศล
[850] สก. สัสสตทิฏฐิพึงเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้แน่นอนโดยอุจเฉททิฏฐิใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. หากสัสสตทิฏฐิพึงเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้แน่นอนโดยอุจเฉททิฏฐิ ท่านก็ไม่
ควรยอมรับว่า ความแน่นอนโดยส่วนเดียวของปุถุชนมีอยู่
สก. สัสสตทิฏฐิไม่พึงเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้แน่นอนโดยอุจเฉททิฏฐิใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เขาละสัสสตทิฏฐิได้แล้วใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เขาละสัสสตทิฏฐิได้แล้วใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ละได้ด้วยโสดาปัตติมรรคใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ละได้ด้วยสกทาคามิมรรค ฯลฯ อนาคามิมรรค ฯลฯ อรหัตตมรรค
ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ละได้ด้วยมรรคไหน
ปร. ละได้ด้วยมรรคฝ่ายอกุศล
เชิงอรรถ :
1 ดูข้อ 848 หน้า 883 ในเล่มนี้ ประกอบ
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [19. เอกูนวีสติมวรรค] 7. อัจจันตนิยามกถา (192)
สก. มรรคฝ่ายอกุศลเป็นสภาวธรรมนำสัตว์ออกจากวัฏฏทุกข์ ฯลฯ1
ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า บุคคลผู้แน่นอนโดยอุจเฉททิฏฐิละสัสสตทิฏฐิได้ด้วยมรรคฝ่าย
อกุศล
[851] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า ความแน่นอนโดยส่วนเดียวของปุถุชนมีอยู่
ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนใน
โลกนี้ เป็นผู้ประกอบด้วยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลฝ่ายดำโดยส่วนเดียว เขาจมแล้ว
ครั้งเดียวก็ยังจมอยู่นั่นเอง2 มีอยู่จริงมิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. ดังนั้น ความแน่นอนโดยส่วนเดียวของปุถุชนจึงมีอยู่
[852] สก. เพราะท่านเข้าใจว่า พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า ภิกษุ
ทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ประกอบด้วยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลฝ่ายดำ
โดยส่วนเดียว เขาจมแล้วครั้งเดียวก็ยังจมอยู่นั่นเอง3 จึงยอมรับว่า ความแน่
นอนโดยส่วนเดียวของปุถุชนมีอยู่ ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนใน
โลกนี้โผล่ขึ้นแล้วจมลง4 มีอยู่จริงมิใช่หรือ
ปร. ใช่
สก. เขาโผล่ขึ้นแล้วกลับจมลงทุกครั้งใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
เชิงอรรถ :
1 ดูข้อ 848 หน้า 883 ในเล่มนี้ ประกอบ
2-4 ดูเทียบ องฺ.สตฺตก. (แปล) 23/15/21-22, อภิ.ปุ. (แปล) 36/203/227-228