เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [18. อัฏฐารสมวรรค] 7. ฌานันตริกกถา (183)
สก. สมาธิที่เกิดในระหว่างฌานไม่มีในระหว่างปฐมฌานกับทุติยฌานใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. สมาธิที่เกิดในระหว่างฌานไม่มีในระหว่างตติยฌานกับจตุตถฌานใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. สมาธิที่เกิดในระหว่างฌานไม่มีในระหว่างปฐมฌานกับทุติยฌานใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[819] สก. สมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ชื่อว่าสมาธิที่เกิดในระหว่างฌาน
ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. สมาธิที่มีวิตกมีวิจาร ชื่อว่าสมาธิที่เกิดในระหว่างฌานใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. สมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ชื่อว่าสมาธิที่เกิดในระหว่างฌานใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. สมาธิที่ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร ชื่อว่าสมาธิที่เกิดในระหว่างฌานใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. สมาธิที่มีวิตกมีวิจาร ไม่ชื่อว่าสมาธิที่เกิดในระหว่างฌานใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. สมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ไม่ชื่อว่าสมาธิที่เกิดในระหว่างฌานใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. สมาธิที่ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร ไม่ชื่อว่าสมาธิที่เกิดในระหว่างฌานใช่ไหม
ปร. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :857 }


พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [18. อัฏฐารสมวรรค] 7. ฌานันตริกกถา (183)
สก. สมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ไม่ชื่อว่าสมาธิที่เกิดในระหว่างฌานใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[820] สก. สมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร มีอยู่ในระหว่างฌานทั้ง 2 ที่เกิด
ขึ้นเฉพาะหน้าใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เมื่อสมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นไปอยู่ ปฐมฌานดับไป ทุติยฌาน
เกิดขึ้นเฉพาะหน้าใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. หากเมื่อสมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นไปอยู่ ปฐมฌานดับไป ทุติยฌาน
เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า “สมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ชื่อว่า
สมาธิที่เกิดในระหว่างฌานมีอยู่ในระหว่างฌานทั้ง 2 ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า”
[821] ปร. สมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ไม่ชื่อว่าสมาธิที่เกิดในระหว่างฌาน
ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. สมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร เป็นปฐมฌาน ฯลฯ ทุติยฌาน ฯลฯ
ตติยฌาน ฯลฯ จตุตถฌานใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น
ปร. ดังนั้น สมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร จึงชื่อว่าสมาธิที่เกิดในระหว่างฌาน
[822] สก. สมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ชื่อว่าสมาธิที่เกิดในระหว่างฌาน
ใช่ไหม
ปร. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :858 }