เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [14. จุททสมวรรค] 2. สฬายตนุปปัตติกถา (137)
2. สฬายตนุปปัตติกถา (137)
ว่าด้วยความเกิดขึ้นแห่งอายตนะ 6
[691] สก. อายตนะ 6 เกิดในครรภ์มารดา ไม่ก่อน ไม่หลังกันใช่ไหม
ปร.1 ใช่2
สก. บุคคลมีอวัยวะน้อยใหญ่ครบถ้วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง หยั่งลงใน
ครรภ์มารดาใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. จักขายตนะเกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิตใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. มือ เท้า ศีรษะ หู จมูก ปาก ฟัน เกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิตใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. โสตายตนะ ฯลฯ ฆานายตนะ ฯลฯ ชิวหายตนะ เกิดพร้อมกับ
ปฏิสนธิจิตใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. มือ เท้า ศีรษะ หู จมูก ปาก ฟัน เกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิตใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[692] ปร. จักขายตนะเกิดขึ้นแก่สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดาในภายหลังใช่ไหม
สก. ใช่

เชิงอรรถ :
1 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายปุพพเสลิยะและนิกายปรเสลิยะ (อภิ.ปญฺจ.อ. 691/273-274)
2 เพราะมีความเห็นว่า อายตนะภายใน 6 มีตาเป็นต้นเกิดขึ้นพร้อมกันในขณะปฏิสนธิ ซึ่งต่างกับความ
เห็นของสกวาทีที่เห็นว่า อายตนะภายใน 6 ของสัตว์ผู้เกิดในครรภ์ไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันทีเดียว แต่จะ
เกิดขึ้นไปตามลำดับ คือมนายตนะกับกายายตนะ เกิดขึ้นในขณะปฏิสนธิ จักขายตนะ โสตายนะ
ฆนายตนะ และชิวหายตนะ เกิดขึ้นในเวลาต่อมา (สัปดาห์ที่ 11) (อภิ.ปญฺจ.อ. 691/273-274)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :737 }


พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [14. จุททสมวรรค] 2. สฬายตนุปปัตติกถา (137)
ปร. สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดาทำกรรมเพื่อได้จักษุอยู่ในครรภ์มารดาใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ปร. โสตายตนะ ฯลฯ ฆานายตนะ ฯลฯ ชิวหายตนะ เกิดขึ้นแก่สัตว์ผู้อยู่
ในครรภ์มารดาในภายหลังใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดาทำกรรมเพื่อได้ชิวหาอยู่ในครรภ์มารดาใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ผม ขน เล็บ ฟัน กระดูก เกิดขึ้นแก่สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดาใน
ภายหลังใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดาทำกรรมเพื่อได้อัฐิอยู่ในครรภ์มารดาใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ท่านไม่ยอมรับว่า “ผม ขน เล็บ ฟัน กระดูก เกิดขึ้นแก่สัตว์ผู้อยู่
ในครรภ์มารดาในภายหลัง” ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า
“รูปนี้เป็นกลละ1ก่อน
จากกลละเกิดเป็นอัพพุทะ2

เชิงอรรถ :
1 กลละ หมายถึงรูปที่มีลักษณะใสขนาดเท่าหยดน้ำมันที่ติดอยู่บนขนแกะ ซึ่งเหลือจากการสบัด 3 ครั้ง
(สํ.ส.อ. 1/235/284, สํ.ส.ฏีกา 1/235/326)
2 อัพพุทะ หมายถึงรูปที่เกิดถัดจากกลละนั้นไป 7 วัน มีสีเหมือนน้ำล้างเนื้อ มีลักษณะเหมือนสีดีบุกเหลว
(สํ.ส.อ. 1/235/285, สํ.ส.ฏีกา 1/235/326)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :738 }