เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [13. เตรสมวรรค] 10. ธัมมตัณหานทุกขสมุทโยติกถา (135)
สก. โลภะคือธัมมตัณหาไม่เป็นทุกขสมุทัยใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. โลภะคือสัททตัณหา ฯลฯ โลภะคือคันธตัณหา ฯลฯ โลภะคือรสตัณหา
ฯลฯ โลภะคือโผฏฐัพพตัณหา ไม่เป็นทุกขสมุทัยใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. โลภะคือรูปตัณหาเป็นทุกขสมุทัยใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. โลภะคือธัมมตัณหาเป็นทุกขสมุทัยใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. โลภะคือสัททตัณหา ฯลฯ โลภะคือโผฏฐัพพตัณหา เป็นทุกขสมุทัย
ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. โลภะคือธัมมตัณหาเป็นทุกขสมุทัยใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[684] สก. ธัมมตัณหาไม่เป็นทุกขสมุทัยใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า “ตัณหาอันทำให้เกิดอีก ประกอบ
ด้วยความเพลิดเพลินและความกำหนัด มีปกติให้เพลินเพลินในอารมณ์นั้น ๆ คือ
กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา” 1 มีอยู่จริงมิใช่หรือ
ปร. ใช่

เชิงอรรถ :
1 ดูเทียบ วิ.ม. (แปล) 4/14/21, ที.ม. (แปล) 10/400/329-331

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :731 }


พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [13. เตรสมวรรค] รวมกถาที่มีในวรรค
สก. ดังนั้น ท่านจึงไม่ควรยอมรับว่า “ธัมมตัณหาไม่เป็นทุกขสมุทัย”
[685] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า “ธัมมตัณหาไม่เป็นทุกขสมุทัย” ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. ตัณหานั้นเป็นธัมมตัณหามิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. หากตัณหานั้นเป็นธัมมตัณหา ท่านก็ควรยอมรับว่า “ธัมมตัณหา
ไม่เป็นทุกขสมุทัย”
ธัมมตัณหานทุกขสมุทโยติกถา จบ
เตรสมวรรค จบ

รวมกถาที่มีในวรรคนี้ คือ

1. กัปปัฏฐกถา 2. กุสลปฏิลาภกถา
3. อนันตราปยุตตกถา 4. นิยตัสสนิยามกถา
5. นิวุตกถา 6. สัมมุขีภูตกถา
7. สมาปันโนอัสสาเทติกถา 8. อสาตราคกถา
9. ธัมมตัณหาอัพยากตาติกถา 10. ธัมมตัณหานทุกขสมุทโยติกถา


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :732 }