เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [12. ทวาทสมวรรค] 6. โกลังโกลกถา (121)
6. โกลังโกลกถา (121)
ว่าด้วยบุคคลผู้โกลังโกละ
[646] ปร.1 ท่านไม่ยอมรับว่า “บุคคลผู้โกลังโกละ2 เป็นผู้แน่นอนที่จะเกิดอีก
2-3 ครั้ง” ใช่ไหม
สก. ใช่3
ปร. ผู้นั้นเป็นโกลังโกละมิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. หากผู้นั้นเป็นโกลังโกละ ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า “บุคคลผู้โกลัง-
โกละเป็นผู้แน่นอนที่จะเกิดอีก 2-3 ครั้ง”

โกลังโกลกถา จบ

เชิงอรรถ :
1 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายอุตตราปถกะ (อภิ.ปญฺจ.อ. 646/266)
2 บุคคลผู้โกลังโกละ หมายถึงพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันผู้ละสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ประการได้แล้ว ไม่มีทาง
ตกต่ำ มีความแน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า เมื่อจะเกิดในภพใหม่เป็นเทวดาหรือมนุษย์ก็เกิด
ได้อีก 2 หรือ 3 ภพ และถ้าเกิดเป็นมนุษย์จะไม่เกิดในตระกูลต่ำ แต่จะเกิดในตระกูลที่มีโภคสมบัติมาก
เท่านั้น (อภิ.ปญฺจ.อ. 32/54), ดูเทียบ อภิ.ปุ. (แปล) 36/32/154
3 เพราะมีความเห็นว่า พระโสดาบันประเภทโกลังโกละไม่มีกฎตายตัวว่า จะต้องเกิดถึง 3 ภพ อาจบรรลุ
อรหัตตผลก่อนก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความแก่กล้าแห่งอินทรีย์ของแต่ละบุคคล ซึ่งต่างกับความเห็นของ
ปรวาทีที่เห็นว่า พระโสดาบันประเภทโกลังโกละจะต้องเกิดอีก 3 ภพแน่นอน (อภิ.ปญฺจ.อ. 646-647/264)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :702 }


พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [12. ทวาทสมวรรค] 8. ชีวิตาโวโรปนกถา (123)
7. เอกพีชีกถา (122)
ว่าด้วยบุคคลผู้เอกพีชี
[647] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า “บุคคลผู้เอกพีชี1 เป็นผู้แน่นอนที่จะเกิดอีก
ครั้งเดียว” ใช่ไหม
สก. ใช่2
ปร. ผู้นั้นเป็นเอกพีชีมิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. หากผู้นั้นเป็นเอกพีชี ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า “บุคคลผู้เอกพีชี
เป็นผู้แน่นอนที่จะเกิดอีกครั้งเดียว”
เอกพีชีกถา จบ

8. ชีวิตาโวโรปนกถา (123)
ว่าด้วยการปลงชีวิต
[648] สก. บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ3อาจจงใจปลงชีวิตสัตว์ได้ใช่ไหม
ปร.4ใช่5

เชิงอรรถ :
1 บุคคลผู้เอกพีชี หมายถึงพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันผู้ละสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ประการได้แล้ว ไม่มีทาง
ตกต่ำ มีความแน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า มีพืชคืออัตภาพเดียว คือเกิดอีกครั้งเดียวก็บรรลุ
อรหัตตผล (อภิ.ปญฺจ.อ. 33/54), ดูเทียบ อภิ.ปุ. (แปล) 36/33/154
2 เพราะมีความเห็นว่า ไม่มีกฎตายตัวว่า จะต้องเกิดครั้งเดียวจึงจะบรรลุอรหัตตผล อาจบรรลุในชาตินั้นก็ได้
ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความแก่กล้าแห่งอินทรีย์ของแต่ละบุคคล ซึ่งต่างกับความเห็นของปรวาทีที่เห็นว่า ต้อง
เกิดอีก 1 ภพแน่นอน (ตีความตามพยัญชนะ)
3 ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ หมายถึงพระอริยบุคคลชั้นโสดาบัน ซึ่งมีชื่อว่า “ผู้ถึงพร้อมด้วยทัศนะ” บ้าง “ผู้
มาสู่พระสัทธรรม” บ้าง “ผู้เห็นพระสัทธรรม” บ้าง “ผู้ประกอบด้วยญาณของพระเสขะ” บ้าง
“ผู้ประกอบด้วยวิชชาของพระเสขะ” บ้าง “ผู้เข้าถึงกระแสธรรม” บ้าง “ผู้มีปัญญาแทงตลอด” บ้าง
“ผู้ยืนจรดประตูอมตะ” บ้าง (องฺ.เอกก.อ. 1/268/402)
4 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายปุพพเสลิยะ (อภิ.ปญฺจ.อ. 648/265)
5 เพราะมีความเห็นว่า แม้เป็นพระโสดาบันอยู่ก็อาจทำปาณาติบาตได้ ซึ่งต่างกับความเห็น
ของสกวาทีที่เห็นว่า พระโสดาบันจะไม่ทำปาณาติบาตโดยเจตนาอย่างแน่นอน (อภิ.ปญฺจ.อ. 648-649/265)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :703 }