เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 1. ปุคคลกถา
ปร. พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราเห็นหมู่สัตว์ผู้
กำลังจุติ กำลังปฏิสนธิ ทั้งชั้นต่ำและชั้นสูง งามและไม่งาม เกิดดีและเกิดไม่ดี
ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์เหนือมนุษย์ รู้ชัดถึงหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม”1 มีอยู่จริง
มิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์
[122] สก. เพราะท่านเข้าใจว่า “พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า ‘ภิกษุทั้งหลาย
เราเห็นหมู่สัตว์ผู้กำลังจุติ กำลังปฏิสนธิ ทั้งชั้นต่ำและชั้นสูง งามและไม่งาม
เกิดดีและเกิดไม่ดี ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์เหนือมนุษย์ รู้ชัดถึงหมู่สัตว์ผู้เป็นไป
ตามกรรม” จึงยอมรับว่า “ข้าพเจ้าจึงหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์”
ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระผู้มีพระภาคทรงเห็นรูป หรือทรงเห็นบุคคลได้ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์
เหนือมนุษย์
ปร. ทรงเห็นรูป
สก. รูปเป็นบุคคล รูปจุติ รูปปฏิสนธิ รูปเป็นไปตามกรรมใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระผู้มีพระภาคทรงเห็นรูป หรือทรงเห็นบุคคลได้ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์
เหนือมนุษย์
ปร. ทรงเห็นบุคคล
สก. บุคคลเป็นรูป เป็นรูปายตนะ เป็นรูปธาตุ เป็นสีเขียว สีเหลือง สีแดง
สีขาว สิ่งที่จะรู้ได้ทางจักษุ กระทบที่จักษุ มาสู่คลองจักษุได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

เชิงอรรถ :
1 ดูเทียบ องฺ.ติก. (แปล) 20/59/227)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :68 }


พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 1. ปุคคลกถา
สก. พระผู้มีพระภาคทรงเห็นรูป หรือทรงเห็นบุคคลได้ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์
เหนือมนุษย์
ปร. ทรงเห็นได้ทั้ง 2 อย่าง
สก. ทั้ง 2 อย่าง เป็นรูป เป็นรูปายตนะ เป็นรูปธาตุ ทั้ง 2 อย่างเป็นสีเขียว
ทั้ง 2 อย่างเป็นสีเหลือง ทั้ง 2 อย่างเป็นสีแดง ทั้ง 2 อย่างเป็นสีขาว ทั้ง 2
อย่างเป็นสิ่งที่จะรู้ได้ทางจักษุ ทั้ง 2 อย่างกระทบที่จักษุ ทั้ง 2 อย่างมาสู่คลองจักษุ
ทั้ง 2 อย่างจุติ ทั้ง 2 อย่างปฏิสนธิ ทั้ง 2 อย่างเป็นไปตามกรรมใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
อุปาทาปัญญัตตานุโยคะ จบ

13. ปุริสการานุโยคะ
ว่าด้วยการซักถามถึงผู้กระทำ
[123] ปร. ท่านหยั่งรู้กรรมดีและกรรมชั่วได้ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. ท่านหยั่งรู้บุคคลผู้ทำ ผู้สั่งให้ทำกรรมดีและกรรมชั่วได้ใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น1 ฯลฯ
[124] สก. ท่านหยั่งรู้กรรมดีและกรรมชั่วได้ เพราะเหตุนั้น จึงหยั่งรู้บุคคล
ผู้ทำ ผู้สั่งให้ทำกรรมดีและกรรมชั่วได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ท่านหยั่งรู้บุคคลผู้สร้าง ผู้สั่งให้สร้างซึ่งบุคคลผู้ทำผู้สั่งให้ทำทั้ง 2 นั้น
ได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น2 ฯลฯ

เชิงอรรถ :
1 เพราะปรวาทีมุ่งจะถามให้สกวาทียอมรับว่า อัตตามีอยู่จริง จึงตอบปฏิเสธ (อภิ.ปญฺจ.อ. 123/152)
2 เพราะปรวาทีเห็นว่า ถ้าตอบรับก็จะมีความผิด 2 ประการ คือ (1) เท่ากับยอมรับว่ามีผู้สร้างอยู่จริง (2)
เท่ากับยอมรับลัทธิพระเจ้าสร้างโลก (อภิ.ปญ.จ.อ. 124/152-153)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :69 }