เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 1. ปุคคลกถา
สก. เพราะอาศัยรัฐจึงบัญญัติพระราชา รัฐกับพระราชาเป็นคนละอย่างกัน ฉันใด
เพราะอาศัยรูปจึงบัญญัติบุคคล รูปกับบุคคลเป็นคนละอย่างกัน ฉันนั้นเหมือนกัน
ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[115] สก. ตรวนมิใช่ผู้ถูกจำตรวน ตรวนมีแก่ผู้ใด ผู้นั้นชื่อว่าผู้ถูกจำตรวน
ฉันใด รูปมิใช่ผู้มีรูป รูปมีแก่ผู้ใด ผู้นั้นชื่อว่าผู้มีรูป ฉันนั้นเหมือนกันใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ตรวนมิใช่ผู้ถูกจำตรวน ตรวนมีแก่ผู้ใด ผู้นั้นชื่อว่าผู้ถูกจำตรวน ตรวน
กับผู้ถูกจำตรวนเป็นคนละอย่างกัน ฉันใด รูปมิใช่ผู้มีรูป รูปมีแก่ผู้ใด ผู้นั้น
ชื่อว่าผู้มีรูป รูปกับผู้มีรูปเป็นคนละอย่าง ฉันนั้นเหมือนกันใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[116] สก. มีการบัญญัติบุคคลในจิตแต่ละดวงใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. บุคคลย่อมเกิด แก่ ตาย จุติ ปฏิสนธิ ในจิตแต่ละดวงใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ท่านไม่ยอมรับว่า “เป็นคนเดียวกันหรือเป็น
คนละคนกัน” ใช่ไหม
ปร. ใช่1
สก. เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ท่านไม่ยอมรับว่า “เป็นเด็กชายหรือเป็น
เด็กหญิง” ใช่ไหม
ปร. ข้าพเจ้ายอมรับ2

เชิงอรรถ :
1 เพราะมีความเห็นว่า บุคคลในจิตดวงที่ 1 กับบุคคลในจิตดวงที่ 2 จะกล่าวว่าเป็นคนเดียวกันหรือเป็นคน
ละคนกันก็ไม่ได้ เพราะถ้ายอมรับว่าเป็นคนเดียวกัน ก็เกรงจะถูกกล่าวหาว่าเป็นสัสสตทิฏฐิ และถ้ายอม
รับว่าเป็นคนละคนกันก็เกรงจะถูกกล่าวหาว่าเป็นอุจเฉททิฏฐิ (อภิ.ปญฺจ.อ. 116/155)
2 เพราะมีความเห็นว่า จะเป็นการขัดกับภาษาที่ชาวโลกใช้พูดกัน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :64 }


พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 1. ปุคคลกถา
สก. ท่านจงรับนิคคหะ ดังต่อไปนี้
เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น หากท่านไม่ยอมรับว่า “เป็นคนเดียวกันหรือเป็น
คนละคนกัน” ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า “เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ข้าพเจ้า
ไม่ยอมรับว่า เป็นเด็กชายหรือเป็นเด็กหญิง” ท่านกล่าวคำขัดแย้งใดในตอนต้นนั้นว่า
“ข้าพเจ้ายอมรับว่า เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ข้าพเจ้าไม่ยอมรับว่า ‘เป็นคน
เดียวกันหรือเป็นคนละคนกัน’ เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ข้าพเจ้าจึงยอมรับว่า
เป็นเด็กชายหรือเป็นเด็กหญิง” คำนั้นของท่านผิด
อนึ่ง เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น หากท่านยอมรับว่า “เป็นเด็กชายหรือเป็น
เด็กหญิง” ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า “เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ข้าพเจ้ายอมรับว่า
เป็นคนเดียวกันหรือเป็นคนละคนกัน” ท่านกล่าวคำขัดแย้งใดในตอนต้นนั้นว่า
“ข้าพเจ้ายอมรับว่า เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ข้าพเจ้าไม่ยอมรับว่า ‘เป็นคน
เดียวกันหรือเป็นคนละคนกัน’ เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ข้าพเจ้าจึงยอมรับว่า
เป็นเด็กชายหรือเป็นเด็กหญิง” คำนั้นของท่านผิด
[117] สก. เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ท่านไม่ยอมรับว่า “เป็นคนเดียวกัน
หรือเป็นคนละคนกัน” ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ท่านไม่ยอมรับว่า “เป็นสตรีหรือเป็นบุรุษ
เป็นคฤหัสถ์หรือเป็นบรรพชิต เป็นเทวดาหรือเป็นมนุษย์” ใช่ไหม
ปร. ข้าพเจ้ายอมรับ
สก. ท่านจงรับนิคคหะ ดังต่อไปนี้
หากเมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ท่านไม่ยอมรับว่า “เป็นคนเดียวกันหรือเป็น
คนละคนกัน” ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า “เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ข้าพเจ้า
ไม่ยอมรับว่า เป็นเทวดาหรือเป็นมนุษย์” ท่านกล่าวคำขัดแย้งใดในตอนต้นนั้นว่า
“ข้าพเจ้ายอมรับว่า เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ข้าพเจ้าไม่ยอมรับว่า ‘เป็นคน
เดียวกันหรือเป็นคนละคนกัน’ เมื่อจิตดวงที่ 2 เกิดขึ้น ข้าพเจ้าจึงยอมรับว่า
เป็นเทวดาหรือเป็นมนุษย์” คำนั้นของท่านผิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :65 }