เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [6. ฉัฏฐวรรค] 8. ปฐวีธาตุสนิทัสสนาติอาทิกถา (60)
8. ปฐวีธาตุสนิทัสสนาติอาทิกถา (60)
ว่าด้วยปฐวีธาตุเป็นสภาวธรรมที่เห็นได้ เป็นต้น
[465] สก. ปฐวีธาตุเป็นสภาวธรรมที่เห็นได้ใช่ไหม
ปร.1 ใช่2
สก. ปฐวีธาตุเป็นรูป เป็นรูปายตนะ เป็นรูปธาตุ เป็นสีเขียว สีเหลือง สีแดง
สีขาว เป็นวิสัยแห่งจักขุวิญญาณ กระทบที่จักษุ มาสู่คลองจักษุได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ปฐวีธาตุเป็นสภาวธรรมที่เห็นได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เพราะอาศัยจักษุและปฐวีธาตุ จึงเกิดจักขุวิญญาณใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เพราะอาศัยจักษุและปฐวีธาตุ จึงเกิดจักขุวิญญาณใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสูตรที่ว่า “เพราะอาศัยจักษุและปฐวีธาตุ จึงเกิดจักขุวิญญาณ” มี
อยู่จริงหรือ
ปร. ไม่มี

เชิงอรรถ :
1 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายอันธกะ (อภิ.ปญฺจ.อ. 465/220)
2 เพราะมีความเห็นว่า มหาภูตรูป 4 เป็นสภาวธรรมที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งต่างกับความเห็นของสกวาที
ที่เห็นว่า ธาตุที่ไม่มีสี เห็นไม่ได้ ต้องมีสีเท่านั้นจึงจะเห็นได้ (อภิ.ปญฺจ.อ. 465/220)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :495 }


พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [6. ฉัฏฐวรรค] 8. ปฐวีธาตุสนิทัสสนาติอาทิกถา (60)
สก. พระสูตรที่ว่า “เพราะอาศัยจักษุและรูป จึงเกิดจักขุวิญญาณ” มีอยู่ จริงใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. หากพระสูตรที่ว่า “เพราะอาศัยจักษุและรูป จึงเกิดจักขุวิญญาณ” มีอยู่
จริง ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า “เพราะอาศัยจักษุและปฐวีธาตุ จึงเกิดจักขุวิญญาณ”
[466] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า “ปฐวีธาตุเป็นสภาวธรรมที่เห็นได้” ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. ท่านเห็นแผ่นดิน แผ่นหิน ภูเขามิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. หากท่านเห็นแผ่นดิน แผ่นหิน ภูเขา ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า
“ปฐวีธาตุเป็นสภาวธรรมที่เห็นได้”
ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า “อาโปธาตุเป็นสภาวธรรมที่เห็นได้” ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. ท่านเห็นน้ำมิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. หากท่านเห็นน้ำได้ ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า “อาโปธาตุเป็น
สภาวธรรมที่เห็นได้”
ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า “เตโชธาตุเป็นสภาวธรรมที่เห็นได้” ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. ท่านเห็นไฟที่ลุกโพลงอยู่มิใช่หรือ
สก. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :496 }