เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [4. จตุตถวรรค] 8. นิยาโมกกันติกถา (40)
สก. พระโพธิสัตว์หยั่งลงสู่นิยาม ประพฤติพรหมจรรย์แล้วในศาสนาของ
พระผู้มีพระภาคพระนามว่ากัสสปะ แต่ไม่ได้เป็นสาวกของพระผู้มีพระภาคพระนาม
ว่ากัสสปะใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เป็นสาวกล่วงไปชาติหนึ่งแล้วกลับไม่เป็นสาวกใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[405] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า “พระโพธิสัตว์หยั่งลงสู่นิยาม ประพฤติ
พรหมจรรย์แล้วในศาสนาของพระผู้มีพระภาคพระนามว่ากัสสปะ” ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า “อานนท์ เราได้ประพฤติพรหมจรรย์
แล้วในพระผู้มีพระภาคพระนามว่ากัสสปะ เพื่อความตรัสรู้ในอนาคต” มีอยู่จริง
มิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า “พระโพธิสัตว์หยั่งลงสู่นิยาม ประพฤติ
พรหมจรรย์แล้วในศาสนาของพระผู้มีพระภาคพระนามว่ากัสสปะ”
สก. พระโพธิสัตว์หยั่งลงสู่นิยาม ประพฤติพรหมจรรย์แล้วในศาสนาของ
พระผู้มีพระภาคพระนามว่ากัสสปะใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า “(พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า)
‘เราเป็นผู้ครอบงำธรรมทั้งปวง1 รู้ธรรมทั้งปวง2
มิได้แปดเปื้อนในธรรมทั้งปวง1 ละธรรมทั้งปวง1 ได้สิ้นเชิง
หลุดพ้นเพราะสิ้นตัณหา ตรัสรู้ยิ่งเอง
แล้วจะพึงอ้างใครเล่า

เชิงอรรถ :
1 ธรรมทั้งปวง ในที่นี้หมายถึงธรรมอันเป็นไปในภูมิ 3 (วิ.อ. 3/11/16)
2 ธรรมทั้งปวง ในที่นี้หมายถึงธรรมอันเป็นไปในภูมิ 4 (วิ.อ. 3/11/16)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :432 }