พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [3. ตติยวรรค] 12. เนวสัญญานาสัญญายตนกถา (32)
สก. เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นภพที่มีขันธ์ 4 ในภพนั้นสัญญามีอยู่
ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. วิญญาณัญจายตนภพ ฯลฯ อากิญจัญญายตนภพเป็นภพที่มีขันธ์ 4
ในภพนั้นสัญญามีอยู่ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นภพที่มีขันธ์ 4 ในภพนั้นสัญญามีอยู่
ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ ท่านไม่ยอมรับว่า “มีสัญญาก็ใช่ ไม่
มีสัญญาก็ใช่” ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นภพที่มีขันธ์ 4 มิใช่หรือ
ปร. ใช่
สก. หากเนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นภพที่มีขันธ์ 4 ท่านไม่ควรยอม
รับว่า “ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ ข้าพเจ้าไม่ยอมรับว่ามีสัญญาก็มิใช่ ไม่มี
สัญญาก็มิใช่”
สก. เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นภพที่มีขันธ์ 4 ท่านไม่ยอมรับว่า “ใน
เนวสัญญานาสัญญายตนภพ สัญญามีและไม่มี” ใช่ไหม
ปร. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :396 }

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [3. ตติยวรรค] 12. เนวสัญญานาสัญญายตนกถา (32)
สก. อากาสานัญจายตนภพ ฯลฯ วิญญาณัญจายตนภพ ฯลฯ
อากิญจัญญายตนภพเป็นภพที่มีขันธ์ 4 ท่านไม่ยอมรับว่า “ในอากิญจัญญายตน-
ภพ มีสัญญาก็ใช่ ไม่มีสัญญาก็ใช่” ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. อากาสานัญจายตนภพเป็นภพที่มีขันธ์ 4 ในภพนั้นสัญญามีอยู่ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นภพที่มีขันธ์ 4 ในภพนั้นสัญญามีอยู่
ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. วิญญาณัญจายตนภพ ฯลฯ อากิญจัญญายตนภพเป็นภพที่มีขันธ์ 4
ในภพนั้นสัญญามีอยู่ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เนวสัญญานาสัญญายตนภพเป็นภพที่มีขันธ์ 4 ในภพนั้นสัญญามีอยู่
ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ปร. ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ ท่านไม่ยอมรับว่า “มีสัญญาก็ใช่ ไม่มี
สัญญาก็ใช่” ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. เนวสัญญานาสัญญายตนภพมีอยู่มิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. หากเนวสัญญานาสัญญายตนภพมีอยู่ ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า
“ในเนวสัญญานาสัญญายตนภพ ข้าพเจ้าไม่ยอมรับว่า มีสัญญาก็ใช่ ไม่มีสัญญา
ก็ใช่”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :397 }