เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [3. ตติยวรรค] 9. ยถากัมมูปคตญาณกถา (29)
สก. มีการประชุมแห่งผัสสะ 2 อย่าง จิต 2 ดวงใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ยถากัมมูปคตญาณเป็นทิพยจักษุใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. บุคคลมนสิการว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย สัตว์เหล่านี้หนอ มนสิการว่า
‘ประกอบกายทุจริต’ มนสิการว่า ‘ประกอบวจีทุจริต’ มนสิการว่า ‘ประกอบ
มโนทุจริต’ มนสิการว่า ‘เป็นผู้กล่าวร้ายพระอริยะ’ มนสิการว่า ‘มีความเห็นผิด’
มนสิการว่า ‘ชักชวนผู้อื่นให้ทำกรรมตามความเห็นผิด’ และมนสิการว่า ‘หลังจาก
ตายแล้ว สัตว์เหล่านั้นก็ไปบังเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก”
บุคคลมนสิการว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย สัตว์เหล่านี้ มนสิการว่า
‘ประกอบกายสุจริต’ มนสิการว่า ‘ประกอบวจีสุจริต’ มนสิการว่า ‘ประกอบ
มโนสุจริต’ มนสิการว่า ‘ไม่กล่าวร้ายพระอริยะ’ มนสิการว่า ‘มีความเห็นชอบ’
มนสิการว่า ‘ชักชวนผู้อื่นให้ทำกรรมตามความเห็นชอบ’ และมนสิการว่า ‘หลังจาก
ตายแล้ว สัตว์เหล่านั้นก็ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์” เห็นรูปด้วยทิพยจักษุใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. บุคคลมนสิการว่า “หลังจากตายแล้วสัตว์เหล่านั้นก็ไปบังเกิดในสุคติ
โลกสวรรค์” เห็นรูปได้ด้วยทิพยจักษุใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. มีการประชุมแห่งผัสสะ 2 อย่าง จิต 2 ดวงใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[378] สก. ยถากัมมูปคตญาณเป็นทิพยจักษุใช่ไหม
ปร. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :380 }