เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [2. ทุติยวรรค] 9. อนุปุพพาภิสมยกถา (18)
โสดาบันผู้สัตตักขัตตุปรมะ โกลังโกละ เอกพีชี ประกอบด้วยความเลื่อมใสที่ไม่
หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า ฯลฯ ในพระธรรม ฯลฯ ในพระสงฆ์ ฯลฯ ประกอบ
ด้วยศีลที่พระอริยะชอบใจ เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน ไม่ประกอบด้วยศีลที่
พระอริยะชอบใจใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[341] สก. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งสกทาคามิผล ละอะไรได้ด้วยการเห็นทุกข์
ปร. ละกามราคะ พยาบาทอย่างหยาบ และกิเลสที่มีอยู่ในจิตดวงเดียวกัน
กับกิเลสทั้ง 2 นั้นได้ 1 ใน 4 ส่วน
สก. เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน เป็นพระสกทาคามี เมื่อละกิเลสได้ 1
ใน 4 ส่วน ไม่เป็นพระสกทาคามี เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน ท่านถึง ได้ บรรลุ
ทำให้แจ้ง เข้าถึงอยู่ สัมผัสสกทาคามิผลด้วยกายอยู่ เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน
4 ส่วน ไม่สัมผัสสกทาคามิผลด้วยกายอยู่ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งสกทาคามิผล ละอะไรได้ด้วยการเห็นสมุทัย
ฯลฯ ด้วยการเห็นนิโรธ ฯลฯ ด้วยการเห็นมรรค
ปร. ละกามราคะอย่างหยาบ พยาบาทอย่างหยาบ และกิเลสที่มีอยู่ในจิตดวง
เดียวกันกับกิเลสทั้ง 2 นั้นได้ 1 ใน 4 ส่วน
สก. เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน เป็นพระสกทาคามี เมื่อละกิเลสได้ 1
ใน 4 ส่วน ไม่เป็นพระสกทาคามี เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน ท่านถึง ได้ บรรลุ
ทำให้แจ้ง เข้าถึงอยู่ สัมผัสสกทาคามิผลด้วยกายอยู่ เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน
ไม่สัมผัสสกทาคามิผลด้วยกายอยู่ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :319 }


พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [2. ทุติยวรรค] 9. อนุปุพพาภิสมยกถา (18)
[342] สก. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งอนาคามิผลละอะไรได้ด้วยการเห็นทุกข์
ปร. ละกามราคะอย่างละเอียด พยาบาทอย่างละเอียด และกิเลสที่มีอยู่ใน
จิตดวงเดียวกันกับกิเลสทั้ง 2 นั้นได้ 1 ใน 4 ส่วน
สก. เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน เป็นพระอนาคามี เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน
4 ส่วน ไม่เป็นพระอนาคามี เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน ท่านถึง ได้ บรรลุ
ทำให้แจ้ง เข้าถึงอยู่ สัมผัสอนาคามิผลด้วยกายอยู่ เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน
ไม่สัมผัสอนาคามิผลด้วยกายอยู่ เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน เป็นพระอนาคามี
ผู้อันตราปรินิพพายี ฯลฯ ผู้อุปหัจจปรินิพพายี ฯลฯ ผู้อสังขารปรินิพพายี ฯลฯ
ผู้สสังขารปรินิพพายี ฯลฯ ผู้อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน
ไม่เป็นพระอนาคามีผู้อุทธังโสโตอกนิฏฐคามีใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งอนาคามิผลละอะไรได้ด้วยการเห็นสมุทัย ฯลฯ
ด้วยการเห็นนิโรธ ฯลฯ ด้วยการเห็นมรรค
ปร. ละกามราคะอย่างละเอียด พยาบาทอย่างละเอียด และกิเลสที่มีอยู่ใน
จิตดวงเดียวกันกับกิเลสทั้ง 2 นั้นได้ 1 ใน 4 ส่วน
สก. เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน เป็นพระอนาคามี เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน
4 ส่วน ไม่เป็นพระอนาคามี เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน ท่านถึง ได้ บรรลุ
ทำให้แจ้ง เข้าถึงอยู่ สัมผัสอนาคามิผลด้วยกายอยู่ เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน
4 ส่วน ไม่สัมผัสอนาคามิผลด้วยกายอยู่ เมื่อละกิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน เป็น
พระอนาคามีผู้อันตราปรินิพพายี ฯลฯ ผู้อุปหัจจปรินิพพายี ฯลฯ ผู้อสังขาร-
ปรินิพพายี ฯลฯ ผู้สสังขารปรินิพพายี ฯลฯ ผู้อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี เมื่อละ
กิเลสได้ 1 ใน 4 ส่วน ไม่เป็นพระอนาคามีผู้อุทธังโสโตอกนิฏฐคามีใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :320 }