เมนู

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [2. ทุติยวรรค] 5. วจีเภทกถา (14)
[327] สก. เมื่อรู้ว่าทุกข์ ย่อมเปล่งวาจาว่าทุกข์ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เมื่อรู้ว่าสมุทัย ย่อมเปล่งวาจาว่าสมุทัยใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เมื่อรู้ว่าทุกข์ ย่อมเปล่งวาจาว่าทุกข์ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เมื่อรู้ว่านิโรธ ย่อมเปล่งวาจาว่านิโรธใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เมื่อรู้ว่าทุกข์ ย่อมเปล่งวาจาว่าทุกข์ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เมื่อรู้ว่ามรรค ย่อมเปล่งวาจาว่ามรรคใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เมื่อรู้ว่าสมุทัย แต่ไม่เปล่งวาจาว่าสมุทัยใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เมื่อรู้ว่าทุกข์ แต่ไม่เปล่งวาจาว่าทุกข์ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เมื่อรู้ว่านิโรธ แต่ไม่เปล่งวาจาว่านิโรธใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เมื่อรู้ว่าทุกข์ แต่ไม่เปล่งวาจาว่าทุกข์ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เมื่อรู้ว่ามรรค แต่ไม่เปล่งวาจาว่ามรรคใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เมื่อรู้ว่าทุกข์ แต่ไม่เปล่งวาจาว่าทุกข์ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :293 }


พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [2. ทุติยวรรค] 5. วจีเภทกถา (14)
[328] สก. การเปล่งวาจาของผู้เข้าฌาน มีอยู่ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ญาณ1มีอะไรเป็นโคจร
ปร. ญาณมีสัจจะเป็นโคจร
สก. โสตะ2 มีสัจจะเป็นโคจรใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. การเปล่งวาจาของผู้เข้าฌานมีอยู่ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. โสตะมีอะไรเป็นโคจร
ปร. โสตะมีเสียงเป็นโคจร
สก. ญาณมีเสียงเป็นโคจรใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. การเปล่งวาจาของผู้เข้าฌานมีอยู่ ญาณมีสัจจะเป็นโคจร โสตะมีเสียง
เป็นโคจรใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. หากญาณมีสัจจะเป็นโคจร โสตะมีเสียงเป็นโคจร ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า
“การเปล่งวาจาของผู้เข้าฌานมีอยู่”
สก. การเปล่งวาจาของผู้เข้าฌานมีอยู่ ญาณมีสัจจะเป็นโคจร โสตะมีเสียง
เป็นโคจรใช่ไหม
ปร. ใช่

เชิงอรรถ :
1 ญาณ ในที่นี้หมายถึงสัจจญาณ 4 ซึ่งเป็นโลกุตตระ (อภิ.ปญฺจ.อ. 328/184)
2 โสตะ ในที่นี้หมายถึงโสตวิญญาณ (อภิ.ปญฺจ.อ. 128/184)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 37 หน้า :294 }