เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [4. อัฏฐกถากัณฑ์] ติกอัตถุทธาระ
16. มัคคารัมมณติกะ
[1429] สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์ เป็นไฉน
จิตตุปบาทที่เป็นญาณสัมปยุตฝ่ายกามาวจรกุศล 4 ฝ่ายกิริยา 4 สภาวธรรม
เหล่านี้ชื่อว่ามีมรรคเป็นอารมณ์ก็มี แต่ไม่มีมรรคเป็นเหตุ ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี
แต่กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรคเป็นอารมณ์หรือมีมรรคเป็นอธิบดี อริยมรรค 4 ไม่มีมรรค
เป็นอารมณ์ แต่มีมรรคเป็นเหตุ ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี แต่กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรค
เป็นอธิบดีก็มี รูปาวจรจตุตถฌานที่เป็นฝ่ายกุศลและฝ่ายกิริยา มโนวิญญาณธาตุที่
เป็นอเหตุกกิริยาซึ่งสหรคตด้วยอุเบกขา สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ามีมรรคเป็นอารมณ์
แต่ไม่มีมรรคเป็นเหตุ ที่ไม่มีมรรคเป็นอธิบดี แต่กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรคเป็นอารมณ์
ก็มี จิตตุปบาทที่เป็นญาณวิปปยุต 4 อกุศลทั้งหมด วิบากแห่งกามาวจรทั้งหมด
จิตตุปบาทฝ่ายกิริยา 6 ฌาน 3 ฌาน 4 ที่เป็นรูปาวจรฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา
วิบากแห่งจตุตถฌาน อรูปฌาน 4 ฝ่ายกุศล วิบาก กิริยา และสามัญญผล 4
สภาวธรรมเหล่านี้กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรคเป็นอารมณ์ มีมรรคเป็นเหตุ หรือมีมรรค
เป็นอธิบดี รูปและนิพพานรับรู้อารมณ์ไม่ได้
17. อุปปันนติกะ
[1430] สภาวธรรมที่เกิดขึ้น เป็นไฉน
วิบากในภูมิ 4 รูปอันกรรมปรุงแต่ง สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเกิดขึ้นก็มี ที่จัก
เกิดแน่นอนก็มี แต่กล่าวไม่ได้ว่า ยังไม่เกิดขึ้น กุศลในภูมิ 4 อกุศล อัพยากตกิริยา
ในภูมิ 3 รูปอันกรรมไม่ปรุงแต่ง สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเกิดขึ้นก็มี ยังไม่เกิดขึ้น
ก็มี แต่กล่าวไม่ได้ว่าจักเกิดขึ้นแน่นอน นิพพานกล่าวไม่ได้ว่าเกิดขึ้น ยังไม่เกิดขึ้น
หรือจักเกิดขึ้นแน่นอน
18. อตีตติกะ
[1431] เว้นนิพพานแล้ว สภาวธรรมทั้งหมดที่เป็นอดีตก็มี ที่เป็นอนาคตก็มี
ที่เป็นปัจจุบันก็มี นิพพานกล่าวไม่ได้ว่าเป็นอดีต อนาคต หรือเป็นปัจจุบัน


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 34 หน้า :352 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [4. อัฏฐกถากัณฑ์] ติกอัตถุทธาระ
19. อตีตารัมมณติกะ
[1432] สภาวธรรมที่มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ เป็นไฉน
วิญญาณัญจายตนะ และเนวสัญญานาสัญญายตนะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า
มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์
[1433] สภาวธรรมที่มีอนาคตธรรมเป็นอารม์อย่างเดียว ไม่มี
[1434] สภาวธรรมที่มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ เป็นไฉน
ปัญจวิญญาณและมโนธาตุ 3 สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ามีปัจจุบันธรรมเป็น
อารมณ์
จิตตุปบาทฝ่ายวิบากแห่งกามาวจรกุศล 10 มโนวิญญาณธาตุที่สหรคตด้วย
อุเบกขาฝ่ายอกุศลวิบาก มโนวิญญาณธาตุที่เป็นอเหตุกกิริยาซึ่งสหรคตด้วยโสมนัส
สภาวธรรมเหล่านี้ที่มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่มี
ปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ก็มี กามาวจรกุศล อกุศล จิตตุปบาทฝ่ายกิริยา 9
รูปาวจรจตุตถฌานฝ่ายกุศลและกิริยา สภาวธรรมเหล่านี้ที่มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์
ก็มี ที่มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ก็มี และกล่าวไม่ได้
ว่า มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์หรือมีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ ฌาน 3 และ 4 ที่เป็น
รูปาวจรฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา จตุตถฌานวิบาก อากาสานัญจายตนะ
อากิญจัญญายตนะ มรรค 4 ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ สามัญญผล 4 สภาวธรรม
เหล่านี้กล่าวไม่ได้ว่ามีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ หรือมี
ปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ รูปและนิพพานชื่อว่ารับรู้อารมณ์ไม่ได้
20. อัชฌัตตติกะ
[1435] เว้นรูปที่ไม่เนื่องด้วยอินทรีย์และนิพพานเแล้ว สภาวธรรมทั้งหมดที่
เป็นภายในตนก็มี ที่เป็นภายนอกตนก็มี ที่เป็นภายในตนและภายนอกตนก็มี รูปที่
ไม่เนื่องด้วยอินทรีย์และนิพพานชื่อว่าเป็นภายนอกตน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 34 หน้า :353 }