เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [3. นิกเขปกัณฑ์] ทุกนิกเขปะ กิเลสโคจฉกะ
[1248] สภาวธรรมที่ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส เป็นไฉน
มรรค ผลของมรรคที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ และธาตุที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
3. สังกิลิฏฐทุกะ
[1249] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมอง เป็นไฉน
อกุศลมูล 3 คือ โลภะ โทสะ โมหะ และกิเลสที่ตั้งอยู่ในฐานเดียวกันกับ
อกุศลมูลนั้น ได้แก่ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอกุศลมูลนั้น
กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ที่มีอกุศลมูลนั้นเป็นสมุฏฐาน สภาวธรรมเหล่า
นี้ชื่อว่ากิเลสทำให้เศร้าหมอง
[1250] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง เป็นไฉน
สภาวธรรมที่เป็นกุศล และอัพยากฤต ซึ่งเป็นกามาวจร รูปาวจร อรูปาวจร
และที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ ได้แก่ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ รูปทั้งหมด
และธาตุที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ากิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
4. กิเลสสัมปยุตตทุกะ
[1251] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยกิเลส เป็นไฉน
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสภาวธรรมที่เป็นกิเลส ได้แก่ เวทนาขันธ์ ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสัมปยุตด้วยกิเลส
[1252] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากกิเลส เป็นไฉน
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากกิเลส ได้แก่ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
รูปทั้งหมด และธาตุที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าวิปปยุตจากกิเลส
5. กิเลสสังกิเลสิกทุกะ
[1253] สภาวธรรมที่เป็นกิเลสและเป็นอารมณ์ของกิเลส เป็นไฉน
กิเลสนั้นนั่นแหละชื่อว่าเป็นกิเลสและเป็นอารมณ์ของกิเลส
[1254] สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส เป็นไฉน


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 34 หน้า :316 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [3. นิกเขปกัณฑ์] ทุกนิกเขปะ กิเลสโคจฉกะ
เว้นสภาวธรรมที่เป็นกิเลสเหล่านั้นแล้ว สภาวธรรมที่เป็นกุศล อกุศล และ
อัพยากฤต ซึ่งเป็นอารมณ์ของอาสวะที่เหลือ เป็นกามาวจร รูปาวจร และอรูปาวจร
ได้แก่ รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็นอารมณ์ของกิเลสแต่
ไม่เป็นกิเลส
6. กิเลสสังกิลิฏฐทุกะ
[1255] สภาวธรรมที่เป็นกิเลสและกิเลสทำให้เศร้าหมอง เป็นไฉน
กิเลสนั้นนั่นแหละชื่อว่าเป็นกิเลสและกิเลสทำให้เศร้าหมอง
[1256] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลส เป็นไฉน
เว้นสภาวธรรมที่เป็นกิเลสเหล่านั้นแล้ว เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ากิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลส
7. กิเลสกิเลสสัมปยุตตทุกะ
[1257] สภาวธรรมที่เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลส เป็นไฉน
โลภะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะโมหะ โมหะเป็นกิเลสและสัมปยุต
ด้วยกิเลสเพราะโลภะ โทสะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะโมหะ โมหะเป็น
กิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะโทสะ มานะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะ
โมหะ โมหะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะมานะ ทิฏฐิเป็นกิเลสและสัมปยุต
ด้วยกิเลสเพราะโมหะ โมหะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะทิฏฐิ วิจิกิจฉาเป็น
กิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะโมหะ โมหะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะ
วิจิกิจฉา ถีนะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะโมหะ โมหะเป็นกิเลสและสัมปยุต
ด้วยกิเลสเพราะถีนะ อุทธัจจะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะโมหะ โมหะ
เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะอุทธัจจะ อหิริกะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วย
กิเลสเพราะโมหะ โมหะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะอหิริกะ อโนตตัปปะ
เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะโมหะ โมหะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลส
เพราะอโนตตัปปะ โลภะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะอุทธัจจะ อุทธัจจะเป็น
กิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะโลภะ โทสะเป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสเพราะ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 34 หน้า :317 }