เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [3. นิกเขปกัณฑ์] ทุกนิกเขปะ จูฬันตรทุกะ
สภาวธรรมที่โสตวิญญาณรู้ได้แต่กายวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
กายวิญญาณรู้ได้แต่โสตวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่โสตวิญญาณรู้ได้แต่จักขุวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
จักขุวิญญาณรู้ได้แต่โสตวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่ฆานวิญญาณรู้ได้แต่ชิวหาวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
ชิวหาวิญญาณรู้ได้แต่ฆานวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่ฆานวิญญาณรู้ได้แต่กายวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
กายวิญญาณรู้ได้แต่ฆานวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่ฆานวิญญาณรู้ได้แต่จักขุวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
จักขุวิญญาณรู้ได้แต่ฆานวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่ฆานวิญญาณรู้ได้แต่โสตวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
โสตวิญญาณที่รู้ได้แต่ฆานวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่ชิวหาวิญญาณรู้ได้แต่กายวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
กายวิญญาณรู้ได้แต่ชิวหาวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่ชิวหาวิญญาณรู้ได้แต่จักขุวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
จักขุวิญญาณรู้ได้แต่ชิวหาวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่ชิวหาวิญญาณรู้ได้แต่โสตวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
โสตวิญญาณรู้ได้แต่ชิวหาวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่ชิวหาวิญญาณรู้ได้แต่ฆานวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
ฆานวิญญาณรู้ได้แต่ชิวหาวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่กายวิญญาณรู้ได้แต่จักขุวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
จักขุวิญญาณรู้ได้แต่กายวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่กายวิญญาณรู้ได้แต่โสตวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
โสตวิญญาณรู้ได้แต่กายวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่กายวิญญาณรู้ได้แต่ฆานวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
ฆานวิญญาณรู้ได้แต่กายวิญญาณรู้ไม่ได้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 34 หน้า :280 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [3. นิกเขปกัณฑ์] ทุกนิกเขปะ อาสวโคจฉกะ
สภาวธรรมที่กายวิญญาณที่รู้ได้แต่ชิวหาวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
ชิวหาวิญญาณรู้ได้แต่กายวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมเหล่านี้เรียกว่าจิตบางดวงรู้ได้ และที่จิตบางดวงรู้ไม่ได้
จูฬันตรทุกะ จบ

3. อาสวโคจฉกะ
1. อาสวทุกะ
[1102] สภาวธรรมที่เป็นอาสวะ เป็นไฉน
อาสวะ 4 คือ
1. กามาสวะ
2. ภวาสวะ
3. ทิฏฐาสวะ
4. อวิชชาสวะ
[1103] บรรดาอาสวะ 4 นั้น กามาสวะ เป็นไฉน
ความพอใจในกาม ความกำหนัดในกาม ความเพลิดเพลินในกาม ตัณหาใน
กาม สิเนหาในกาม ความเร่าร้อนเพราะกาม ความลุ่มหลงในกาม ความหมกมุ่น
ในกาม ในกามทั้งหลาย นี้เรียกว่ากามาสวะ
[1104] ภวาสวะ เป็นไฉน
ความพอใจในภพ ความกำหนัดในภพ ความเพลิดเพลินในภพ ตัณหาในภพ
สิเนหาในภพ ความเร่าร้อนเพราะภพ ความลุ่มหลงในภพ ความหมกมุ่นในภพ
ในภพทั้งหลาย นี้เรียกว่าภวาสวะ
[1105] ทิฏฐาสวะ เป็นไฉน
ความเห็นว่า โลกเที่ยง โลกไม่เที่ยง โลกมีที่สุด โลกไม่มีที่สุด ชีวะกับสรีระ
เป็นอย่างเดียวกัน ชีวะกับสรีระเป็นคนละอย่างกัน หลังจากตายแล้ว ตถาคต1 เกิด

เชิงอรรถ :
1 ตถาคต ในที่นี้เป็นคำที่ลัทธิอื่น ๆ ใช้กันมาก่อนพุทธกาล หมายถึงอัตตา (อาตมัน) ไม่ได้หมายถึงพระ
พุทธเจ้า อรรถกถาอธิบายว่า หมายถึงสัตตะ (ที.สี.อ. 65/108)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 34 หน้า :281 }