เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [2. รูปกัณฑ์] รูปวิภัตติ ทุกนิทเทส ปกิณณกทุกะ อุปาทาภาชนีย์
ฆานายตนะ
[604] รูปที่เป็นฆานายตนะ นั้นเป็นไฉน
ฆานะใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป 4 นับเนื่องในอัตภาพ ที่เห็นไม่ได้แต่
กระทบได้ สัตว์นี้ เคยดม กำลังดม จักดม หรือพึงดมกลิ่นที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้
ด้วยฆานะใด ที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ นี้ชื่อว่าฆานะบ้าง ฆานายตนะบ้าง ฆานธาตุ
บ้าง ฆานินทรีย์บ้าง โลกบ้าง ทวารบ้าง สมุทรบ้าง ปัณฑระบ้าง เขตบ้าง วัตถุบ้าง
ฝั่งนี้บ้าง บ้านว่างบ้าง รูปนี้ชื่อว่าเป็นฆานายตนะ1
[605] รูปที่เป็นฆานายตนะ นั้นเป็นไฉน
ฆานะใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป 4 นับเนื่องในอัตภาพ ที่เห็นไม่ได้แต่
กระทบได้ กลิ่นที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ เคยกระทบ กำลังกระทบ จักกระทบ หรือ
พึงกระทบที่ฆานะใด ที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ นี้ชื่อว่าฆานะบ้าง ฆานายตนะบ้าง
ฆานธาตุบ้าง ฆานินทรีย์บ้าง โลกบ้าง ทวารบ้าง สมุทรบ้าง ปัณฑระบ้าง เขตบ้าง
วัตถุบ้าง ฝั่งนี้บ้าง บ้านว่างบ้าง รูปนี้ชื่อว่าเป็นฆานายตนะ
[606] รูปที่เป็นฆานายตนะ นั้นเป็นไฉน
ฆานะใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป 4 นับเนื่องในอัตภาพ ที่เห็นไม่ได้แต่
กระทบได้ ฆานะใดที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ เคยกระทบ กำลังกระทบ จักกระทบ
หรือพึงกระทบ กลิ่นที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ นี้ชื่อว่าฆานะบ้าง ฆานายตนะบ้าง
ฆานธาตุบ้าง ฆานินทรีย์บ้าง โลกบ้าง ทวารบ้าง สมุทรบ้าง ปัณฑระบ้าง เขตบ้าง
วัตถุบ้าง ฝั่งนี้บ้าง บ้านว่างบ้าง รูปนี้ชื่อว่าเป็นฆานายตนะ
[607] รูปที่เป็นฆานายตนะ นั้นเป็นไฉน
ฆานะใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป 4 นับเนื่องในอัตภาพ ที่เห็นไม่ได้แต่
กระทบได้ เพราะอาศัยฆานะใด ฆานสัมผัสปรารภกลิ่นเป็นอารมณ์ เคยเกิด กำลัง
เกิด จักเกิด หรือพึงเกิด ฯลฯ เพราะอาศัยฆานะใด เวทนาที่เกิดแต่ฆานสัมผัส
ฯลฯ สัญญา ฯลฯ เจตนา ฯลฯ ฆานวิญญาณปรารภกลิ่น เคยเกิด กำลังเกิด
จักเกิด หรือพึงเกิด ฯลฯ เพราะอาศัยฆานะใด ฆานสัมผัสมีกลิ่นเป็นอารมณ์

เชิงอรรถ :
1 อภิ.วิ. 35/158/80

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 34 หน้า :193 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [2. รูปกัณฑ์] รูปวิภัตติ ทุกนิทเทส ปกิณณกทุกะ อุปาทาภาชนีย์
เคยเกิด กำลังเกิด จักเกิด หรือพึงเกิด ฯลฯ เพราะอาศัยฆานะใด เวทนาที่เกิดแต่
ฆานสัมผัส ฯลฯ สัญญา ฯลฯ เจตนา ฯลฯ ฆานวิญญาณ มีกลิ่นเป็นอารมณ์
เคยเกิด กำลังเกิด จักเกิด หรือพึงเกิด นี้ชื่อว่าฆานะบ้าง ฆานายตนะบ้าง
ฆานธาตุบ้าง ฆานินทรีย์บ้าง โลกบ้าง ทวารบ้าง สมุทรบ้าง ปัณฑระบ้าง เขตบ้าง
วัตถุบ้าง ฝั่งนี้บ้าง บ้านว่างบ้าง รูปนี้ชื่อว่าเป็นฆานายตนะ
ชิวหายตนะ
[608] รูปที่เป็นชิวหายตนะ นั้นเป็นไฉน
ชิวหาใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป 4 นับเนื่องในอัตภาพ ที่เห็นไม่ได้
แต่กระทบได้ สัตว์นี้เคยลิ้ม กำลังลิ้ม จักลิ้ม หรือพึงลิ้มรสที่เห็นไม่ได้แต่กระทบ
ได้ด้วยชิวหาใด ที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ นี้ชื่อว่าชิวหาบ้าง ชิวหายตนะบ้าง
ชิวหาธาตุบ้าง ชิวหินทรีย์บ้าง โลกบ้าง ทวารบ้าง สมุทรบ้าง ปัณฑระบ้าง
เขตบ้าง วัตถุบ้าง บ้านว่างบ้าง รูปนี้ชื่อว่าเป็นชิวหายตนะ1
[609] รูปที่เป็นชิวหายตนะ นั้นเป็นไฉน
ชิวหาใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป 4 นับเนื่องในอัตภาพ ที่เห็นไม่ได้แต่
กระทบได้ รสที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ เคยกระทบ กำลังกระทบ จักกระทบ หรือพึง
กระทบที่ชิวหาใด ที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ นี้ชื่อว่าชิวหาบ้าง ชิวหายตนะบ้าง
ชิวหาธาตุบ้าง ชิวหินทรีย์บ้าง โลกบ้าง ทวารบ้าง สมุทรบ้าง ปัณฑระบ้าง
เขตบ้าง วัตถุบ้าง ฝั่งนี้บ้าง บ้านว่างบ้าง รูปนี้ชื่อว่าเป็นชิวหายตนะ
[610] รูปที่เป็นชิวหายตนะ นั้นเป็นไฉน
ชิวหาใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป 4 นับเนื่องในอัตภาพ ที่เห็นไม่ได้แต่
กระทบได้ ชิวหาใด ที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ เคยกระทบ กำลังกระทบ จักกระทบ
หรือพึงกระทบ รสที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ นี้ชื่อว่าชิวหาบ้าง ชิวหายตนะบ้าง
ชิวหาธาตุบ้าง ชิวหินทรีย์บ้าง โลกบ้าง ทวารบ้าง สมุทรบ้าง ปัณฑระบ้าง
เขตบ้าง วัตถุบ้าง ฝั่งนี้บ้าง บ้านว่างบ้าง รูปนี้ชื่อว่าเป็นชิวหายตนะ

เชิงอรรถ :
1 อภิ.วิ. 35/159/81

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 34 หน้า :194 }