เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก [2. หัตถินาควรรค] 8. ธัมมเทวปุตตจริยา
[65] เราตามรักษาศีลของเรา มิใช่รักษาชีวิตของเรา
เพราะในกาลนั้น เราเป็นผู้รักษาศีล
เพราะเหตุแห่งพระโพธิญาณเท่านั้น ฉะนี้แล
มาตังคจริยาที่ 7 จบ

8. ธัมมเทวปุตตจริยา
ว่าด้วยจริยาของธรรมเทพบุตร
[66] อีกเรื่องหนึ่ง ในกาลที่เราเป็นเทพบุตรนามว่าธรรมะ
มีศักดิ์ใหญ่ มีฤทธิ์มาก มีบริวารมาก เป็นผู้อนุเคราะห์โลกทั้งปวง
[67] เราชักชวนมหาชนให้สมาทานกุศลกรรมบถ 10 ประการ
พร้อมทั้งมิตรสหาย พร้อมทั้งบริวารชนเที่ยวไปยังบ้านและนิคม
[68] ครั้งนั้น เทพบุตรผู้ลามก เป็นผู้ตระหนี่
แสดงอกุศลกรรมบถ 10 ประการ
แม้เทพบุตรนั้น พร้อมทั้งมิตรสหาย
พร้อมทั้งบริวารชนก็เที่ยวไปบนแผ่นดินนี้
[69] เราทั้ง 2 คือ ธรรมวาทีเทพบุตรและอธรรมวาทีเทพบุตร
เป็นศัตรูต่อกัน เราทั้ง 2 นั่งรถสวนทางกันมา
จึงทำแอกรถให้กระทบกัน
[70] การทะเลาะอันน่าสะพรึงกลัวย่อมเกิดขึ้นแก่เทพบุตรทั้ง 2
ผู้ประกอบด้วยกัลยาณธรรมและบาปธรรม
มหาสงครามปรากฏแล้ว เพื่อต้องการจะให้กันและกันหลีกทาง
[71] ถ้าเราพึงโกรธเคืองอธรรมวาทีเทพบุตรนั้น
ถ้าเราพึงทำลายตบะคุณ เราพึงทำอธรรมวาทีเทพบุตรนั้น
พร้อมทั้งบริวารให้เป็นดุจธุลี
[72] อีกเรื่องหนึ่ง เพื่อรักษาศีลไว้ เราจึงระงับจิตได้แล้ว
พร้อมทั้งบริวาร ได้หลีกทางให้แก่อธรรมวาทีเทพบุตรผู้ชั่วช้า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :754 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก [2. หัตถินาควรรค] 9. ชยทิสจริยา
[73] เพราะทำจิตให้สงบพร้อมกับหลีกทางให้
แผ่นดินได้แยกช่องแก่เทพบุตรผู้ชั่วช้าในขณะนั้น ฉะนี้แล
ธัมมเทวปุตตจริยาที่ 8 จบ

9. ชยทิสจริยา
ว่าด้วยพระจริยาของพระเจ้าชัยทิศ
[74] ในกรุงที่ประเสริฐชื่อกัปปิลา เป็นนครที่อุดมในแคว้นปัญจาละ
ได้มีพระราชาพระนามว่าชัยทิศ ประกอบด้วยคุณคือศีล
[75] เราเป็นโอรสของพระราชาพระองค์นั้น
มีธรรมอันสดับแล้ว มีศีลดีงาม มีนามว่าอลีนสัตตกุมาร
มีคุณสงเคราะห์บริวารชนทุกเมื่อ
[76] พระราชบิดาของเราเสด็จล่าเนื้อ ได้เข้าใกล้พระยาโปริสาท
พระยาโปริสาทนั้นได้จับพระราชบิดาของเราแล้วกล่าวว่า
ท่านเป็นอาหารของเรา อย่าดิ้นรนไปเลย
[77] พระราชบิดาของเราทรงสดับคำของพระยาโปริสาทนั้น
ตกพระทัย สะดุ้งหวาดหวั่น มีพระเพลาแข็ง1
เพราะทอดพระเนตรเห็นพระยาโปริสาท
[78] พระยาโปริสาทรับเอาเนื้อแล้วปล่อยไปโดยบังคับให้กลับมาอีก
พระราชบิดาพระราชทานทรัพย์แก่พราหมณ์แล้วตรัสเรียกเรามาว่า
[79] ลูกเอ๋ย จงปกครองราชสมบัติ อย่าประมาทปกครองนครนี้
พระยาโปริสาทบังคับพ่อให้กลับไปหาอีก
[80] เราไหว้พระราชมารดาและพระราชบิดาแล้ว
ตกแต่งร่างกาย สะพายธนู เหน็บพระแสงขรรค์
ออกไปหาพระยาโปริสาท(เราคิดว่า)

เชิงอรรถ :
1 พระเพลาแข็ง หมายถึงขาแข็งไม่สามารถจะหนีไปได้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :755 }