เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก [1. อกิตติวรรค] 9. เวสสันตรจริยา
[65] เมื่อเราจะให้ทานก็ดี กำลังให้ทานก็ดี ให้ทานแล้วก็ดี
จิตของเราไม่เป็นอย่างอื่น เพราะเหตุแห่งพระโพธิญาณเท่านั้น
[66] จักษุทั้ง 2 เป็นที่น่าเกลียดชังสำหรับเราก็หาไม่
แม้ตัวเราเองจะเป็นที่เกลียดชังก็หาไม่
แต่พระสัพพัญญุตญาณเป็นที่รักของเรา
เพราะฉะนั้น เราจึงได้ให้จักษุ ฉะนี้แล
สิวิราชจริยาที่ 8 จบ

9. เวสสันตรจริยา
ว่าด้วยพระจริยาของพระเวสสันดร
[67] นางกษัตริย์พระนามว่าผุสดีพระชนนีของเรา
เป็นพระมเหสีที่รักของท้าวสักกะ ในอดีตชาติ
[68] ท้าวสักกะจอมเทพทรงทราบว่าพระนางจะสิ้นอายุ
จึงตรัสดังนี้ว่า ‘นางผู้เจริญ เราจะให้พร 10 ประการ1
ที่เธอปรารถนาแก่เธอ’
[69] พอท้าวสักกะตรัสอย่างนั้นแล้ว
พระเทวีนั้นได้ทูลท้าวสักกะดังนี้ว่า
หม่อมฉันมีความผิดอะไรหนอ
หม่อมฉันเป็นที่น่ารังเกียจสำหรับพระองค์หรือหนอ
พระองค์จึงจะให้หม่อมฉันเคลื่อนจากสถานอันน่ารื่นรมย์
เหมือนลมพัดต้นไม้ให้หวั่นไหว

เชิงอรรถ :
1 พร 10 ประการ คือ (1) ขอให้ได้เป็นพระมเหสีของพระองค์ทุกชาติ (2) ขอให้มีพระเนตรสีเขียว (3) ขอ
ให้มีพระโขนงสีเขียว (4) ขอให้มีนามว่าผุสดี (5) ขอให้ได้บุตรที่ประกอบด้วยคุณ (6) ตั้งครรภ์มีอุทรไม่นูนขึ้น
(7) มีถันไม่ยาน (8) ผมไม่หงอก (9) มีผิวละเอียด (10) ไม่เป็นหมัน (ขุ.จริยา.อ. 72/93)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :736 }