พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 26. พุทธปกิณณกกัณฑ์
[13] ต่อจากพระพุทธเจ้าพระนามว่าสุชาตะ
ได้มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้สูงสุดแห่งเทวดาและมนุษย์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่านั้นผู้ไม่มีบุคคลเปรียบได้ในโลก
เสด็จอุบัติขึ้นในกัปเดียวกัน
[14] ในกัปที่ 94 นับจากกัปนี้ไป
ได้มีพระมหามุนีพระองค์เดียวคือพระสิทธัตถะ
ผู้ทรงรู้แจ้งโลก ทรงเป็นดังศัลยแพทย์ผู้ยอดเยี่ยม
[15] ในกัปที่ 92 นับจากกัปนี้ไป
มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำ 2 พระองค์
คือพระติสสะ 1 พระปุสสะ 1
ผู้ไม่มีบุคคลเสมอ ไม่มีบุคคลเปรียบ
[16] ในกัปที่ 91 นับจากกัปนี้ไป
มีพระพุทธเจ้าทรงนามว่าวิปัสสี ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นทรงมีพระกรุณา
ทรงเปลื้องสัตว์ทั้งหลายจากเครื่องพันธนาการ
[17] ในกัปที่ 31 นับจากกัปนี้ไป
ได้มีพระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้นำ 2 พระองค์
คือพระสิขี 1 พระเวสสภู 1
ผู้ไม่มีบุคคลเสมอ ไม่มีบุคคลเปรียบ
[18] ในภัทรกัปนี้ได้มีพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำ 3 พระองค์
คือพระกกุสันธะ 1 พระโกนาคมนะ 1
พระกัสสปะ ผู้ทรงเป็นผู้นำ 1
[19] บัดนี้ เราเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าเมตไตรยจักมี(ในอนาคต)
แม้พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ก็ทรงเป็นนักปราชญ์อนุเคราะห์สัตว์โลก
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 27. ธาตุภาชนียกถา
[20] บรรดาพระพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นพระธรรมราชาเหล่านั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่านั้นพร้อมด้วยสาวก
จักตรัสบอกมรรคนั้นแก่ผู้อื่นหลายโกฏิ
แล้วจักเสด็จดับขันธปรินิพพาน ฉะนี้แล
พุทธปกิณณกกัณฑ์ที่ 26 จบ
27. ธาตุภาชนียกถา
ว่าด้วยการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ
[1] พระมหาโคดมชินเจ้าผู้ประเสริฐ
เสด็จดับขันธปรินิพพานที่กรุงกุสินารา
พระบรมสารีริกธาตุของพระองค์
แผ่ไปอย่างกว้างขวางในนานาอารยประเทศ
[2] พระบรมสารีริกธาตุทะนานหนึ่งเป็นของพระเจ้าอชาตศัตรู
อีกทะนานหนึ่งอยู่ที่กรุงเวสาลี
อีกทะนานหนึ่งอยู่ที่กรุงกบิลพัสดุ์
และอีกทะนานหนึ่งอยู่ที่กรุงอัลลกัปปะ
[3] ทะนานหนึ่งอยู่ที่กรุงรามคาม
ทะนานหนึ่งอยู่ที่กรุงเวฏฐทีปกะ
ทะนานหนึ่งอยู่ที่กรุงปาวาของมัลลกษัตริย์
ทะนานหนึ่งอยู่ที่กรุงกุสินารา
[4] โทณพราหมณ์ให้ช่างสร้างสถูปบรรจุทะนานทอง
กษัตริย์กรุงโมริยะผู้มีหทัยยินดี
รับสั่งให้สร้างพระสถูปบรรจุพระอังคาร
[5] พระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 8 แห่ง
ตุมพเจดีย์เป็นแห่งที่ 9
