เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 24. กัสสปพุทธวงศ์
[27] ‘ถ้าเราทั้งหลายจักพลาดศาสนาของพระโลกนาถพระองค์นี้
เราทั้งหลายก็จักพร้อมหน้าหน่อพุทธางกูรนี้ในอนาคต
[28] มนุษย์ทั้งหลายเมื่อจะข้ามแม่น้ำ พลาดท่าเฉพาะหน้าแล้ว
ก็ยึดเอาท่าถัดไปจึงข้ามแม่น้ำใหญ่ไป ฉันใด
[29] เราทั้งหมดก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ถ้าพลาดพระชินเจ้าพระองค์นี้
ก็จักพร้อมหน้าหน่อพุทธางกูรนี้ในอนาคตกาล’
[30] เราได้ฟังพระดำรัสของพระพุทธเจ้าแม้พระองค์นั้นแล้ว
ก็ทำจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง
ได้อธิษฐานวัตรเพื่อบำเพ็ญบารมี 10 ประการให้ยิ่งขึ้นไป
[31] เราระลึกถึงพุทธพยากรณ์อย่างนี้แล้ว
งดเว้นความประพฤติเสียหาย
ข้าพเจ้าทำกรรมที่ทำได้ยาก
เพราะเหตุแห่งพระโพธิญาณเท่านั้น
[32] กรุงชื่อว่าพาราณสี กษัตริย์พระนามว่ากิกี
ตระกูลใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็อยู่ในนครนั้น
[33] พรหมทัตตพราหมณ์นั้นเป็นพุทธบิดา
นางพราหมณีชื่อว่าธนวดีเป็นมารดา
ของพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
[34] พระองค์ทรงครองฆราวาสอยู่ 2,000 ปี
มีปราสาทที่อุดมอยู่ 3 หลัง
คือหังสปราสาท ยสปราสาท และสิริจันทปราสาท
[35] มีนางสนมกำนัล 48,000 นาง
ล้วนประดับประดาสวยงาม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :715 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 24. กัสสปพุทธวงศ์
พระมเหสีพระนามว่าสุนันทา
พระราชโอรสพระนามว่าวิชิตเสนะ
[36] พระองค์เป็นผู้สูงสุดแห่งบุรุษ
ทรงเห็นนิมิต 4 ประการ
จึงออกจากปราสาทไปผนวช
ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ 7 วัน (จึงได้บรรลุพระโพธิญาณ)
[37] พระมหาวีระพระนามว่ากัสสปะ
ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก ผู้สูงสุดแห่งนรชน
ผู้อันพรหมทูลอาราธนาแล้ว
ทรงประกาศพระธรรมจักรที่มฤคทายวัน
[38] พระติสสเถระและพระภารทวาชเถระเป็นพระอัครสาวก
พระเถระนามว่าสรรพมิตตะเป็นพระอุปัฏฐาก
ของพระพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
[39] พระอนุลาเถรีและพระอุรุเวลาเถรีเป็นพระอัครสาวิกา
ต้นไม้เป็นที่ตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
ชาวโลกเรียกว่า ต้นไทร
[40] สุมังคลอุบาสกและฆฏิการอุบาสกเป็นอัครอุปัฏฐาก
วิชิตเสนาอุบาสิกาและภัททาอุบาสิกาเป็นอัครอุปัฏฐายิกา
[41] พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงมีพระวรกายสูง 20 ศอก
มีพระรัศมีเปล่งปลั่งดังสายฟ้าในอากาศ
ดุจดวงจันทร์ทรงกลด
[42] พระองค์ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
ทรงมีพระชนมายุประมาณ 20,000 ปี
พระองค์ทรงดำรงพระชนมายุประมาณเท่านั้น
ทรงช่วยหมู่ชนให้ข้ามพ้นได้เป็นจำนวนมาก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :716 }