เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [44. เอกวิหาริวรรค] 9. อัมพปิณฑิยเถราปทาน
9. อัมพปิณฑิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอัมพปิณฑิยเถระ
(พระอัมพปิณฑิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[72] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเป็นพญาช้างมีงางอนงาม1
เหมาะที่จะเป็นราชพาหนะ
เที่ยวอยู่ในป่าใหญ่ ได้เห็นพระผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
[73] ข้าพเจ้าได้หยิบชิ้นมะม่วงมาถวายพระศาสดา
พระมหาวีระพระนามว่าสิทธัตถะ ผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลกทรงรับแล้ว
[74] ขณะที่ข้าพเจ้าเพ่งดูอยู่ พระชินเจ้าได้เสวยแล้วในครั้งนั้น
ข้าพเจ้าทำจิตให้เลื่อมใสในพระชินเจ้าพระองค์นั้นแล้ว
จึงได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต
[75] ข้าพเจ้าจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตนั้นแล้ว
ได้เสวยสมบัติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ โดยอุบายนั้นแล
[76] ข้าพเจ้ามีจิตเด็ดเดี่ยวเพื่อบำเพ็ญเพียร
มีจิตสงบระงับ ไม่มีอุปธิ
กำหนดรู้อาสวะ2 ทั้งปวงแล้ว จึงอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
[77] ในกัปที่ 94 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายทานไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้

เชิงอรรถ :
1 มีงางอนงาม หมายถึงมีงางอนเหมือนงอนรถ (ขุ.อป.อ. 1/657/377, ขุ.อป.อ. 2/179-80/370)
2 อาสวะ หมายถึงกิเลสเครื่องหมักดองมี 4 คือ (1) กามาสวะ (2) ภวาสวะ (3) ทิฏฐาสวะ (4) อวิชชาสวะ
(ขุ.เถร.อ. 2/596/235, ที.ปา. (แปล) 11/305/264, องฺ.จตุกฺก. (แปล) 21/198/311)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :71 }