เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 23. โกนาคมนพุทธวงศ์
พระโคดมผู้มียศพระองค์นั้น
จักมีพระชนมายุประมาณ 100 ปี
เทวดาและมนุษย์ได้ฟังพระดำรัสนี้
ของพระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอเหมือน
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่แล้ว
ต่างก็มีความชื่นชมกล่าวว่า
‘ท่านผู้นี้เป็นหน่อพุทธางกูร’
สัตว์ทั้งหลายในหมื่นจักรวาลพร้อมทั้งเทวดา
ต่างก็เปล่งเสียงโห่ร้องปรบมือ ร่าเริง
ประนมมือนมัสการว่า
‘ถ้าเราทั้งหลายจักพลาดศาสนาของพระโลกนาถพระองค์นี้
เราทั้งหลายก็จักพร้อมหน้าหน่อพุทธางกูรนี้ในอนาคตกาล
มนุษย์ทั้งหลายเมื่อจะข้ามแม่น้ำ พลาดท่าเฉพาะหน้าแล้ว
ก็ยึดเอาท่าถัดไปจึงข้ามแม่น้ำใหญ่ไป ฉันใด
เราทั้งหมดก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ถ้าพลาดพระชินเจ้าพระองค์นี้
ก็จักพร้อมหน้าหน่อพุทธางกูรนี้ในอนาคตกาล’
[14] เราได้ฟังพระดำรัสของพระพุทธเจ้าแม้พระองค์นั้นแล้ว
ก็ทำจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง
ได้อธิษฐานวัตรเพื่อบำเพ็ญบารมี 10 ประการให้ยิ่งขึ้นไป
[15] เราเป็นผู้สูงสุดแห่งนรชน เมื่อแสวงหาพระสัพพัญญุตญาณ
จึงให้ทาน สละราชสมบัติอันยิ่งใหญ่
บวชในสำนักของพระชินเจ้า
[16] กรุงชื่อว่าโสภวดี กษัตริย์พระนามว่าโสภะ
ตระกูลใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็อยู่ในนครนั้น
[17] ยัญญทัตตพราหมณ์นั้นเป็นพุทธบิดา
นางพราหมณีชื่อว่าอุตตราเป็นพระมารดา
ของพระศาสดาพระนามว่าโกนาคมนะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :709 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 23. โกนาคมนพุทธวงศ์
[18] พระองค์ทรงครองฆราวาสอยู่ 3,000 ปี
มีปราสาทที่อุดมอยู่ 3 หลัง
คือดุสิตปราสาท สันดุสิตปราสาท และสันตุฏฐปราสาท
[19] มีนางสนมกำนัล 16,000 นาง
ล้วนประดับประดาสวยงาม
พระมเหสีพระนามว่ารุจิคัตตา
พระราชโอรสพระนามว่าสัตถวาหะ
[20] พระองค์เป็นผู้สูงสุดแห่งบุรุษ ทรงเห็นนิมิต 4 ประการ
จึงทรงราชยานพาหนะคือช้างออกผนวชแล้ว
ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ 6 เดือนเต็ม(จึงได้บรรลุพระโพธิญาณ)
[21] พระมหาวีระพระนามว่าโกนาคมนะ
ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก เป็นผู้สูงสุดแห่งนรชน
ผู้อันพรหมทูลอาราธนาแล้ว
ทรงประกาศพระธรรมจักรที่มฤคทายวัน
[22] พระภิยโยสเถระและพระอุตตรเถระเป็นพระอัครสาวก
พระเถระนามว่าโสตถิชะเป็นพระอุปัฏฐาก
ของพุทธเจ้าพระนามว่าโกนาคมนะ ผู้มีพระยศ
[23] พระสมุททาเถรีและพระอุตตราเถรีเป็นพระอัครสาวิกา
ต้นไม้เป็นที่ตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
ชาวโลกเรียกว่าต้นมะเดื่อ
[24] อุคคอุบาสกและโสมเทพอุบาสกเป็นอัครอุปัฏฐาก
สีวลาอุบาสิกาและสามาอุบาสิกาเป็นอัครอุปัฏฐายิกา
[25] พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงมีพระวรกายสูง 30 ศอก
ประดับด้วยพระรัศมีเปล่งปลั่งดังทองคำที่ปากเบ้า
[26] ขณะนั้น พระพุทธองค์มีพระชนมายุประมาณ 30,000 ปี
พระองค์ทรงดำรงพระชนมายุอยู่ประมาณเท่านั้น
ทรงช่วยหมู่ชนให้ข้ามพ้นได้เป็นจำนวนมาก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :710 }