เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 13. ปิยทัสสีพุทธวงศ์
13. ปิยทัสสีพุทธวงศ์
ว่าด้วยพระประวัติของพระปิยทัสสีพุทธเจ้า
[1] สมัยต่อจากพระพุทธเจ้าพระนามว่าสุชาตะ
ได้มีพระสยัมภูพระนามว่าปิยทัสสี ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
หาผู้กระทบกระทั่งได้ยาก ไม่มีผู้เสมอเหมือน มีพระยศยิ่งใหญ่
[2] แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้มียศอันนับมิได้
ทรงรุ่งเรืองดังดวงอาทิตย์ ทรงขจัดความมืดทั้งปวงแล้ว
ทรงประกาศพระธรรมจักร
[3] (สาวก)ของพระพุทธเจ้าผู้มีพระเดชไม่มีอะไรเปรียบปาน
มีการบรรลุธรรม 3 ครั้ง
เทวดาและมนุษย์จำนวน 100,000 โกฏิ ได้บรรลุธรรมครั้งที่ 1
[4] ท้าวสุทัสสนเทวราช มากราบทูลถึงมิจฉาทิฏฐิ
พระศาสดาเมื่อจะทรงบรรเทามิจฉาทิฏฐิ
ของท้าวเทวราชนั้นจึงทรงแสดงธรรม
[5] ครั้งนั้น มหาชนได้มาประชุมกันมากมาย ประมาณไม่ได้
เทวดาและมนุษย์ประมาณ 9,000 โกฏิ ได้บรรลุธรรมครั้งที่ 2
[6] ในกาลที่พระพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นสารถีฝึกนรชน
ทรงฝึกช้างโทณมุข
เทวดาและมนุษย์ประมาณ 80,000 โกฏิ ได้บรรลุธรรมครั้งที่ 3
[7] แม้พระปิยทัสสีพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก็มีการประชุมสาวก 3 ครั้ง
พระสาวกประมาณ 100,000 โกฏิ มาประชุมกัน เป็นครั้งที่ 1
[8] พระมุนีขีณาสพประมาณ 90 โกฏิ มาประชุมร่วมกัน
ในการประชุมครั้งที่ 3 มีพระมุนีขีณาสพประมาณ 80 โกฏิ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :656 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 13. ปิยทัสสีพุทธวงศ์
[9] สมัยนั้น เราเป็นมาณพมีชื่อว่ากัสสปะ
เป็นผู้คงแก่เรียน ทรงจำมนตร์ จบไตรเพท1
[10] เราได้ฟังธรรมของพระองค์แล้ว เกิดความเลื่อมใส
ได้บริจาคทรัพย์ 100,000 โกฏิสร้างสังฆาราม
[11] ครั้นถวายอารามแก่พระองค์แล้ว ร่าเริง ตื้นตันใจ
ได้สมาทานสรณคมน์และเบญจศีลให้มั่นคง
[12] แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นประทับนั่ง ท่ามกลางสงฆ์
ทรงพยากรณ์เราว่า
“ใน 118 กัป มาณพนี้จักเป็นพระพุทธเจ้า”
พระตถาคตได้เสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ที่น่ารื่นรมย์
[13] พระตถาคตทรงเริ่มตั้งความเพียร
บำเพ็ญทุกรกิริยาจักประทับนั่งโคนต้นอชปาลนิโครธ
ทรงรับข้าวปายาสที่ที่นั้น แล้วเสด็จไปยังแม่น้ำเนรัญชรา
พระชินเจ้าพระองค์นั้นจักเสวยข้าวปายาส
ที่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา แล้วเสด็จไปที่โคนต้นโพธิ์
ตามหนทางอันประเสริฐที่ตกแต่งไว้แล้ว
จากนั้น พระองค์ผู้มีพระยศยิ่งใหญ่
จักทำประทักษิณโพธิมัณฑ์อันยอดเยี่ยมแล้ว
ตรัสรู้ที่โคนต้นอัสสัตถพฤกษ์
พระมารดาผู้ให้กำเนิดพระชินเจ้าพระองค์นี้
จักมีพระนามว่ามายา
พระบิดาจักมีพระนามว่าสุทโธทนะ
พระชินเจ้าพระองค์นี้จักมีพระนามว่าโคดม
พระโกลิตเถระและพระอุปติสสเถระ
ผู้ไม่มีอาสวะ สิ้นราคะ มีจิตสงบ

เชิงอรรถ :
1 ไตรเพท หมายถึงบทสวดสรรเสริญเทพเจ้า ซึ่งรวบรวมเป็นหมวด ๆ เรียกชื่อว่า ฤคเวท ยชุรเวท สามเวท
และอาถรรพเวท (ที.สี. (แปล) 9/256/87-8)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :657 }